5 ข้อควรระวังเมื่อมีอาการแพ้ฝุ่น

ลดการแพ้ฝุ่น ด้วยเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รุ่น T12 Allergy Pro ของแบรนด์ BWell

อาการแพ้ฝุ่น ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะใครก็ตามที่เป็นภูมิแพ้ ฝุ่นในอากาศที่เราหายใจเข้าไปมีสารก่อภูมิแพ้หลายชนิด เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร และเชื้อรา แพ้ฝุ่น ก่อให้เกิด อาการต่าง ๆ เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล ไม่เพียงเท่านี้ อาการแพ้ฝุ่น ทำให้รู้สึกคัน อีกด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกไม่สบาย แต่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย เพราะฉะนั้นการป้องกันและดูแลตนเองเมื่อมีอาการแพ้ฝุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ข้อควรระวัง เมื่อมีอาการแพ้ฝุ่น มีอะไรบ้าง

ฝุ่นละออง เป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณสามารถรับมือกับอาการแพ้ฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือข้อควรระวังเมื่อมีอาการแพ้ฝุ่น ที่เราลิสต์มาให้ 5 ข้อ 

1. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นมาก

เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอาการแพ้ฝุ่น ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นมาก เช่น บริเวณที่มีการก่อสร้าง สถานที่ที่มีการทำความสะอาดน้อย หรือที่มีขนสัตว์เยอะ แต่ถ้าจำเป็นต้องไปในสถานที่เหล่านี้ ควรใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นและล้างมือทันทีหลังจากที่ออกจากสถานที่ดังกล่าว

2. รักษาความสะอาดภายในบ้าน

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ฝุ่น การรักษาความสะอาดภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำความสะอาดพื้นบ้าน ผ้าม่าน พรม และเฟอร์นิเจอร์บ่อย ๆ ใช้เครื่องกรองอากาศเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นในอากาศ นอกจากนี้ ควรซักผ้าปูที่นอนและผ้าห่มในน้ำร้อนเป็นประจำ เพื่อกำจัดไรฝุ่นที่อาจสะสมอยู่ในเครื่องนอน

3. วางเครื่องฟอกอากาศในบ้าน

ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน เป็นสถานที่ที่คุณใช้เวลานานที่สุดและมีความเสี่ยงในการสะสมไรฝุ่นมากที่สุด การวางเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนจะช่วยลดปริมาณไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ที่คุณสูดดมขณะนอนหลับ หรือจะเป็น ห้องนั่งเล่น สำหรับบ้านไหนที่เลี้ยงสัตว์ หรือใช้ห้องนั่งเล่นบ่อย ๆ การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนั่งเล่นจะช่วยรักษาคุณภาพอากาศให้สะอาดและลดการสะสมของไรฝุ่น

4. หลีกเลี่ยงการใช้พัดลมและเครื่องปรับอากาศที่สกปรก

เราควรทำความสะอาดและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศและพัดลมอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากพัดลมและเครื่องปรับอากาศที่ไม่ทำความสะอาดเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศในเครื่องปรับอากาศตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยฝุ่นออกมาในอากาศ

5. เลือกใช้วัสดุที่ป้องกันฝุ่น

ในบ้านควรใช้วัสดุที่ป้องกันฝุ่น เช่น ผ้าคลุมเตียงที่ป้องกันไรฝุ่น ผ้าม่านที่สามารถซักทำความสะอาดได้ง่าย หลีกเลี่ยงการใช้พรมหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าคลุมซึ่งเก็บฝุ่นง่าย นอกจากนี้ การเลือกใช้เครื่องนอนที่ทำจากวัสดุที่ไม่เก็บฝุ่นจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นได้มากขึ้น

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รุ่น T12 Allergy Pro ของแบรนด์ BWell
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รุ่น T12 Allergy Pro ของแบรนด์ BWell

6. ใช้เครื่องดูดฝุ่น

อีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพื่อลดอาการแพ้ฝุ่น และปัจจุบัน เครื่องดูดฝุ่นก็มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยลดฝุ่นในบ้าน อย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย BWELL รุ่น T12 Allergy Pro เครื่องดูดฝุ่นสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ครั้งแรกในไทยที่มีแปรงดูดแบบ 2 หัว ตอบโจทย์การทำความสะอาดทุกรูปแบบ มาพร้อมนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ด้วยระบบการกรองฝุ่นแบบ 6 ขั้นตอน สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ได้สูงถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ มีความแรงในการดูดฝุ่นสูงมาก ด้วยแรงดูด 170 แอร์วัตต์ และมอเตอร์แบบดิจิทัลหมุนแรง 125,000 รอบต่อนาที ใช้งานได้ยาวนาน 60 นาที เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่เพียงเท่านี้ยังสามารถถอดแยกชิ้นส่วน ประกอบหัวแปรงมอเตอร์แบบ Double Roller หลายขนาดเป็นเครื่องดูดฝุ่นมือถือ ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดในทุกพื้นที่อีกด้วย 

ทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อควรระวังเมื่อมีอาการแพ้ฝุ่น ต้องบอกว่า การดูแลตนเองเป็นเรื่องสำคัญ และควรให้ความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงฝุ่น การรักษาความสะอาดภายในบ้าน ใช้อุปกรณ์ที่ป้องกันฝุ่น และ การใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพที่สามารถดักจับฝุ่นละออง สำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ อย่างเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย BWELL รุ่น T12 Allergy Pro ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์