ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
“ระบบไฟฟ้าสถิตย์ มีการปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อไปจับกับอนุภาค เมื่อใช้นานๆประสิทธิภาพมักลดลง และการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ตลอดเวลาก็เป็นที่กังขากันเรื่องความปลอดภัยว่า ถ้าเราได้รับประจุไฟฟ้าต่อเนื่องนานๆจะเกิดโทษหรือไม่”
จากหนังสือ “กำจัดไรฝุ่น” โดย พ.ญ.สิรินันท์ บุญยะลีพรรณ และผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
“โอโซน เป็นสารที่มีความระคายเคืองต่อปอดสูง (potent lung irritant) ในระดับที่มีความเข้มข้นสูงๆสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้โดย เฉพาะในผู้ป่วยโรคหืด โรคปอดเรื้อรัง เด็กและผู้สูงอายุ…ดังนั้นโอโซนจากเครื่องฟอกอากาศจึงไม่เหมาะสำหรับฆ่า เชื้อโรคอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่า”
จากหนังสือ “Q&A โรคภูมิแพ้” โดย พ.ญ.ฉวีวรรณ บุนนาค และวรรณะ มหากิตติคุณ
“หลักการซื้อเครื่องฟอกอากาศ…ไม่ต้องมีการปล่อยประจุบวก ประจุลบ หรือโอโซนออกมา…เพื่อความปลอดภัยของเยื่อบุในทางเดินหายใจ”
จากหนังสือ “โรคภูมิแพ้ ตอนแพ้ไรฝุ่น” โดย พ.ญ.สิรินันท์ บุญยะลีพรรณ และผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
“หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า ก๊าซโอโซนมีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงมีพ่อค้าโฆษณาเครื่องผลิตโอโซนเพื่อจำหน่าย ความเป็นจริง ก๊าซโอโซนเป็นก๊าซที่ระคายต่อทางเดินหายใจ ทำให้ระคายเคืองและอักเสบ นอกจากนี้ ยังทำให้แสบตา แสบจมูก คันผิวหนัง ยิ่งเป็นผู้ป่วยภูมิแพ้จะเกิดอาการมาก”
จากหนังสือ “รู้ทันอันตรายโรคภูมิแพ้” โดย พ.ต.อ.นพ.พิพัฒน์ ชูวรเวช และพ.ต.อ.พญ.นพมาศ ชูวรเวช
“เครื่องโอโซนมีผลเสียต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ”
จากหนังสือ “โรคภูมิแพ้ ตอนแพ้อากาศ” โดย พ.ญ.สิรินันท์ บุญยะลีพรรณ และผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
“คนที่หายใจเอาโอโซนเข้าไปนั้นจะมีอาการหอบหืดได้ หรืออาจจะทำให้โรคหืดที่มีอยู่แล้วเกิดมีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น”
จากหนังสือ “ภูมิแพ้และหอบหืด” โดยนายแพทย์นิคม วราชู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้
“Ozone is an irritant gas that reacts with lung tissue and can cause asthma attacks; coughing; chest discomfort; irritation of the nose, throat, and trachea; and other adverse health effects.”
From “Residential Air Cleaners” by United States Environmental Agency (EPA)
“อย่า ใช้เครื่องปรับอากาศที่มีส่วนผลิตโอโซน (Ozone Generator) เพราะแม้โอโซนจะออกซิไดซ์สารพิษ ฆ่าเชื้อโรค และลดสารก่อภูมิแพ้ได้ แต่สารผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของโอโซนกลับเป็นสารอันตรายมากกว่า”