เครื่องดูดความชื้น

เครื่องดูดความชื้น Bwell เครื่องดูดความชื้นเคลื่อนที่ ดูดความชื้นได้ถึง 30 ลิตรต่อวัน

Bwell เครื่องกำจัดความชื้น เครื่องไล่ความชื้น เซนเซอร์อัจฉริยะควบคุมระดับความชื้นได้แม่นยำ รับรองประสิทธิภาพในการดูดความชื้นระดับสูง ทำงานด้วยระบบคอมเพลสเซอร์ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เชื้อรา และกลิ่นอับอันเป็นสาเหตุการเกิดโรคภูมิแพ้ ช่วยดูแลสุขภาพของคุณและลูกน้อยให้ปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมระบบอัจฉริยะที่ออกแบบโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ออกแบบมาสำหรับบุคคลทั่วไป และผู้ใช้งานที่ต้องการความอ่อนโยนโดยเฉพาะ ทั้งเด็กทารก และผู้ป่วยภูมิแพ้ เป็นเครื่องดูดความชื้นที่มีความอเนกประสงค์ จัดเต็มด้วยระบบฟังก์ชันอัจฉริยะที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานกว่าที่เคย มีระบบระบายน้ำอัตโนมัติใน 5 นาที โหมดตากผ้า โหมดพัดลม และโหมดไม่รบกวนเวลานอน ทำให้คุณนอนหลับสบายหลับลึกตลอดคืน

• เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่นแนะนำ
• ประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้น
• วิธีเลือกเครื่องดูดความชื้น
• การดูแลเครื่องดูดความชื้น
• หลักการทำงานของเครื่องดูดความชื้น
• ช่องทางจัดจำหน่าย

• เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-30

เครื่องขจัดความชื้นเคลื่อนที่ดิจิทัลของ Bwell ที่มาพร้อมกับดีไซน์สวยงามทันสมัย มีล้อหมุนได้ 360 องศา และหน้าจอดิจิทัลที่แสดงตัวเลขระดับความชื้น ควบคุมแบบระบบสัมผัส ช่วยให้ง่ายต่อการใช้งาน แถมยังมีนวัตกรรมฟังก์ชันใช้งานอเนกประสงค์ สามารถปรับค่าความชื้นที่ต้องการได้ 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ พร้อมด้วยประสิทธิภาพในการลดความชื้น 30 ลิตร ต่อวัน และปรับความแรงพัดลมได้ถึง 2 ระดับ ที่สำคัญ ยังมีนวัตกรรมโหมดละลายน้ำแข็ง ระบบระบายน้ำแบบต่อเนื่อง และระบบแจ้งเตือนเมื่อน้ำเต็มถัง ใครที่มองหาเครื่องดูดความชื้นสำหรับห้องขนาด 30 ถึง 50 ตารางเมตร ต้องไม่ควรพลาดเครื่องลดความชื้นในอากาศ Bwell รุ่นนี้เด็ดขาด

• เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-20 

เครื่องปรับความชื้น Bwell ดิจิทัลที่สวยงามเอาใจสายมินิมอล โดดเด่นด้วยระบบเซนเซอร์อัจฉริยะที่ปรับค่าความชื้นที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพในการดูดความชื้นอยู่ที่ 20 ลิตร ต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 10 ถึง 30 ตารางเมตร ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องกำจัดความชื้นรุ่นนี้ยังมีโหมดตากผ้า เป่าผ้าให้แห้ง และเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องแต่งกายได้ดี โหมดพัดลมที่ปรับระดับได้ 2 ระดับ ด้วยแรงลมถึง 190 m2 ต่อชั่วโมง โหมดละลายน้ำแข็ง ระบบระบายน้ำต่อเนื่อง และโหมดไม่รบกวนเวลานอนหลับ อีกทั้งยังมีล้อหมุนได้ 360 องศา ติดตั้งให้ และมีน้ำหนักเพียง 13.5 กิโลกรัม เท่านั้น ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและขนย้ายเป็นที่สุด

• ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

เครื่องดูดความชื้นในบ้านมีประสิทธิภาพในการปรับสมดุลระดับความชื้นภายในบ้าน ช่วยให้อากาศมีสภาพความชื้นที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ลดสาเหตุของการเกิดเชื้อโรคสะสม ลดอาการคัน กลิ่นอับ เชื้อรา แบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ อาการระคายเคืองต่อผิว และปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี

• ลดปัญหาเชื้อราและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

ปัญหาการเกิดเชื้อราบนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นเป็นผิวผ้าต่าง ๆ และรวมถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นั้นมาจากระดับความชื้นภายในบ้านที่สูงจนเกินไป ซึ่งเครื่องดูดความชื้นสามารถช่วยลดกลิ่นเหม็นอับ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากเชื้อรา และลดการเจริญเติบโตของเชื้อราในบ้านของคุณได้

• ลดปัญหาการเกิดสนิม

ความชื้นคือสาเหตุของการเกิดสนิมบนชิ้นงานที่เป็นเหล็ก อะลูมิเนียม และฉนวนกันความร้อนในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการติดตั้งเครื่องปรับความชื้นไว้ใช้งาน จะช่วยปรับระดับความชื้นให้สมดุล เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปทำลายเนื้อวัตถุจนเกินสนิมได้

• ป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพ 

ความชื้นมักมาพร้อมกับไอน้ำและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งนับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์บวม และ แต่หากมีเครื่องขจัดความชื้นไว้ใช้งาน ปัญหาเหล่านี้ก็จะหายไปทันที

• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ

เครื่องขจัดความชื้นที่มีคุณภาพจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องปรับอากาศให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากระดับความชื้นที่มากจนเกินไป มักทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้นจากการระบายความร้อน และขจัดความชื้นในเวลาเดียวกัน มีโอกาสที่เครื่องปรับอากาศจะเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งานได้

• ขนาดของเครื่องขจัดความชื้น 

เครื่องขจัดความชื้นแต่ละรุ่นต่างมีขนาดและประสิทธิภาพในการลดความชื้นไม่เท่ากัน ซึ่งควรเลือกเครื่องปรับความชื้นที่มีขนาดเหมาะสมกับสถานที่ หรือห้องที่ใช้งานด้วย มิเช่นนั้นเครื่องดูดความชื้นจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้คุณสิ้นเปลืองไฟด้วย หากใครที่สงสัยสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญ หรือศึกษาจากรายละเอียดของเครื่องดูดความชื้นแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย เพราะมีการระบุรายละเอียดส่วนนี้ให้อยู่แล้ว

• ฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ 

เครื่องกำจัดความชื้นบางแบรนด์บางรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานเพียงแค่ช่วยลดความชื้น แต่ในบางรุ่นอาจมีฟังก์ชันอื่น ๆ เสริมมาให้ด้วย ทำให้มีความอเนกประสงค์ในการใช้งานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดตั้งเวลาการทำงาน ระบบฟอกอากาศ ตากผ้า และการปรับระดับความเร็วพัดลมของเครื่องดูดความชื้น ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่ใช่สำหรับคุณมากที่สุด ถ้าไม่ใช้งานฟังก์ชันนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นที่หลากหลาย เพราะจะทำให้คุณเสียงบประมาณเกินความจำเป็น

• ราคาของเครื่องขจัดความชื้น

การตั้งงบประมาณที่ใช้ซื้อเครื่องขจัดความชื้น นอกจากจะช่วยให้คุณสามารถตัดเครื่องลดความชื้นบางรุ่นที่เกินกำลังซื้อออกได้แล้ว ยังช่วยให้คุณสามารถเลือกเครื่อง ดูด ความชื้น ใน บ้านที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ ได้ รวมถึงอย่าลืมพิจารณาถึงเรื่องแบรนด์จำหน่าย และบริการหลังการขายด้วย เพราะการตั้งงบประมาณต้องคำนึงถึงประกันและค่าซ่อมบำรุงในกรณีที่เกิดการชำรุด เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายบานปลายในภายหลัง

1. ถอดปลั๊กเครื่องขจัดความชื้นหลังใช้งานทุกครั้ง 

ปิดเครื่องและถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งานเครื่องดูดความชื้น เพื่อการประหยัดพลังงาน และช่วยป้องกันการเกิดอัคคีภัย รวมถึงป้องกันไม่ให้ความร้อนสะสมในตัวปลั๊กของเครื่องขจัดความชื้น จนทำให้ปลั๊กไฟเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งานได้ อีกทั้งวิธีนี้ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความปลอดภัยในขณะทำความสะอาดเครื่องลดความชื้นด้วย ไม่ต้องกังวลปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า

2. หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้านนอกเครื่องขจัดความชื้น

เครื่องขจัดความชื้นไม่เพียงแต่ลดความชื้นในอากาศเท่านั้น แต่ยังช่วยกรองอากาศให้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดด้านนอกของตัวเครื่องดูดความชื้นด้วยผ้าสะอาดอย่างสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นบริเวณด้านนอกตัวเครื่องจะกลายเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย

3. หมั่นทำความสะอาดอ่างเก็บน้ำของเครื่องขจัดความชื้น 

ความชื้นของอากาศทั้งหมดจะถูกเก็บสะสมในถังของตัวเครื่องขจัดความชื้น เว้นแต่ว่าคุณจะสูบน้ำไปยังท่อระบายน้ำแยกออกจากตัวเครื่องดูดความชื้นโดยตรง ซึ่งหากไม่ได้ต่อท่อเสริมก็หมายความว่ามีโอกาสที่สิ่งสกปรกจะสะสมภายในตัวเครื่องลดความชื้นได้ จึงควรหมั่นทำความสะอาดอ่างเก็บน้ำ ด้วยสบู่เหลวอ่อน ๆ ผสมน้ำสะอาดลงในถัง และค่อย ๆ ขัดออกเบา ๆ ล้างน้ำให้สะอาด ทิ้งให้แห้งก่อนนำไปประกอบก่อนใช้งาน

4. ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ

แผ่นกรองอากาศเป็นตัวช่วยในการกรองสิ่งสกปรกและลดความชื้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งนับเป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องขจัดความชื้นที่ต้องหมั่นทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่และใช้ฟองน้ำเช็ดให้ทั่วอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากแผ่นกรองอากาศจะดักจับสิ่งสกปรกทั้งอนุภาคขนาดเล็กและใหญ่ในอากาศไว้ หากไม่ทำความสะอาดจะทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย

5. ถอดและทำความสะอาดตัวกรองถังเครื่องขจัดความชื้น

นอกจากแผ่นกรองและอ่างเก็บน้ำแล้ว ห้ามลืมทำความสะอาดตัวกรองถังของเครื่องขจัดความชื้นเด็ดขาด เพราะส่วนนี้มีหน้าที่กรองดักจับสิ่งสกปรกอนุภาคขนาดเล็กกว่าตัวกรองเป็นหลัก วิธีทำความสะอาดก็ง่ายมาก แค่ถอดและนำออกมาล้างด้วยน้ำอุ่น ตากให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับไปใช้งาน

เครื่องลดความชื้นในอากาศมีหลักการทำงานใกล้เคียงกับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งทำหน้าที่ลดความชื้นในอากาศ ด้วยการดูดอากาศชื้นเข้าสู่ภายในตัวเครื่องขจัดความชื้น ผ่านแผงคอยล์เย็น เพื่อกลั่นอากาศชื้นให้กลายเป็นหยดน้ำ และปล่อยอากาศร้อนหรืออากาศแห้งเข้ามาแทนที่ ในขณะที่ความชื้นที่ถูกเปลี่ยนสภาพก็จะถูกปล่อยทิ้งตามท่อน้ำทิ้ง กระบวนการทำงานของเครื่องดูดความชื้นก็จะหมุนเวียนเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง จนรักษาระดับความชื้นที่ตามที่ตั้งค่าไว้อย่างแม่นยำ