เครื่องฟอกอากาศกับการประหยัดพลังงาน เปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาเปลืองไฟไหม

เครื่องฟอกอากาศกับการประหยัดพลังงาน

การใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้านหรือที่ทำงานกลายเป็นเรื่องจำเป็นในยุคปัจจุบัน เนื่องจากคุณภาพอากาศกำลังเสื่อมลงเรื่อย ๆ จากฝุ่นละออง ควัน และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น PM2.5 หรือสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้หลายคนเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงกังวลว่าการเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาจะทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหรือไม่ และกินไฟมากเพียงใด บทความนี้จะตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเครื่องฟอกอากาศกินไฟเยอะจริงหรือไม่ และมีวิธีการใช้อย่างไรให้ประหยัดพลังงาน

เครื่องฟอกอากาศกินไฟเยอะจริงหรือไม่?

คำถามที่พบบ่อยคือ “เครื่องฟอกอากาศกินไฟเยอะจริงไหม?” ความจริงแล้วเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้งานไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นของเครื่องฟอกอากาศ ขนาดของห้อง และฟังก์ชันที่มีมาในเครื่อง โดยทั่วไป เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กอาจใช้ไฟฟ้าเพียงแค่ 30-60 วัตต์ ซึ่งไม่ต่างจากการใช้หลอดไฟ LED เล็ก ๆ หากเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันการทำงานขั้นสูง เช่น การปล่อยประจุไฟฟ้าลบเพื่อทำความสะอาดอากาศเพิ่ม ก็อาจใช้พลังงานมากขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงประหยัดไฟฟ้าเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้าน

เปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลา เปลืองไฟจริงหรือไม่

อีกหนึ่งความกังวลของหลาย ๆ คนคือการเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาอาจทำให้ค่าไฟพุ่งสูง ความเป็นจริงแล้วการเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวันก็ไม่ได้ทำให้ค่าไฟสูงมากนักหากเลือกใช้เครื่องที่มีมาตรฐานด้านพลังงาน เช่น การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีสัญลักษณ์ Energy Star ซึ่งได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ ๆ มักมีการออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำและมีเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟ เช่น ฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยปรับความแรงลมตามสภาพอากาศ และโหมด Sleep ที่ลดการใช้ไฟในตอนกลางคืน เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นยังมีโหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode) ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานเมื่ออากาศในห้องมีคุณภาพดีขึ้น ทำให้เครื่องไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และลดการสิ้นเปลืองไฟฟ้า

ข้อมูลกำลังไฟฟ้าเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่นจาก Bwell

  • เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G8

กำลังไฟฟ้า: 5V / 1A เทียบเท่ากับกำลังไฟฟ้า 5 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Bwell รุ่น G8 เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา เหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์หรือวางติดตัว หรือพื้นที่ไม่เกิน 10 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรอง 4 ขั้นตอน ได้แก่ Pre-filter, HEPA H11, แผ่นกรองคาร์บอน และแสง UV สำหรับฆ่าเชื้อโรค มีความสามารถในการปรับความเร็วลม 2 ระดับ ใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมงหลังชาร์จเพียง 1.5 ชั่วโมง ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 180×75 มม. น้ำหนักเบาเพียง 0.3 กิโลกรัม รับประกันสินค้า 1 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น G9 

กำลังไฟฟ้า: 2 Amp / แรงดันไฟฟ้า 5 Volt (DC) เทียบเท่ากับกำลังไฟฟ้า 10 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Bwell รุ่น G9 เหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์หรือพื้นที่ไม่เกิน 10 ตารางเมตร มีระบบกรองอากาศ 5 ขั้นตอน ครบวงจรตั้งแต่กรองฝุ่น ดูดกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค รวมถึงแผ่นกรอง HEPA H13 และ Charcoal Filter ที่ช่วยกำจัดกลิ่นและเชื้อโรค พร้อม Ionizer ที่ช่วยลดควันบุหรี่ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเพียง 1.76 กิโลกรัม ควบคุมด้วยระบบสัมผัส และปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ มีฟังก์ชันตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ พร้อมการแจ้งเตือนอายุแผ่นกรอง รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และมอเตอร์ 5 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S 

กำลังไฟฟ้า: 45 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น AP-M1536S เหมาะสำหรับห้องขนาด 45 ตารางเมตร ด้วยระบบกรอง 3 ขั้นตอน ได้แก่ แผ่นกรอง Prefilter แผ่นกรอง HEPA H13 และแผ่นกรอง Charcoal ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อผ่านแอป Smartlife และมีฟังก์ชันตรวจจับมลพิษพร้อมปรับการทำงานอัตโนมัติ มีระบบ Sleep Mode, Child Lock รวมทั้ง Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นสี ตั้งเวลาปิดได้สูงสุด 8 ชั่วโมง รับประกันสินค้า 1 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219S 

กำลังไฟฟ้า: 38 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น AP-H2219S เหมาะกับห้องขนาด 60 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน ได้แก่ แผ่นกรอง HEPA H13 แผ่นกรอง Charcoal และแผ่นกรอง Prefilter เพื่อกำจัดฝุ่น PM2.5 และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตัวเครื่องมีฟังก์ชันเชื่อมต่อ WiFi ควบคุมผ่านแอป Smartlife มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษ ปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ มีโหมดการทำงานอัตโนมัติ รวมถึงโหมด Sleep และ Child Lock รับประกันสินค้า 1 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005 

กำลังไฟฟ้า: 60 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น CF-8005 “Intelligent Series” เหมาะสำหรับห้องขนาด 10-20 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรองอากาศครบวงจรถึง 6 ขั้นตอน เช่น แผ่นกรอง HEPA H11 และ Charcoal/Zeolite ที่ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ กลิ่น และแบคทีเรีย มีระบบตรวจจับมลพิษและปรับการทำงานอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน UV สำหรับฆ่าเชื้อโรค สามารถปรับระดับความแรงลมได้ 4 ระดับ และตั้งเวลาปิดได้ ออกแบบพิเศษเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความอ่อนโยน โดยเฉพาะทารก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ไม่มีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดฝุ่นดำ และโอโซน ซึ่งส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อปอด รับประกันสินค้า 5 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศไวรัส รุ่น CF-8428 

กำลังไฟฟ้า: 55 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น CF-8428 “Compact Series” เหมาะสำหรับห้องขนาด 20-40 ตารางเมตร มีระบบกรองอากาศ 7 ขั้นตอน รวมถึงแผ่นกรอง HEPA H13, Charcoal/Zeolite แผ่นกรอง Anti-Bacteria และ UV ฆ่าเชื้อโรค พร้อมช่วยทำลายก๊าซมลพิษและกลิ่นโดยการเปลี่ยนให้เป็นสารไร้มลพิษ สามารถควบคุมผ่าน Wi-Fi และแอปพลิเคชัน พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษและปรับการทำงานอัตโนมัติ มีโหมด Sleep ระบบแจ้งเตือนอายุแผ่นกรอง ตั้งเวลาปิดได้ รับประกันสินค้า 5 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US 

กำลังไฟฟ้า: 57 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น AP-8119US เหมาะสำหรับห้องขนาด 10-30 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรอง 6 ขั้นตอน ได้แก่ แผ่นกรอง Activated Carbon Pre-filter ดักจับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่ แผ่นกรอง HEPA H13 กรองละเอียด 0.01 ไมครอน แผ่นกรอง Antibacteria ดักจับแบคทีเรีย แผ่นกรอง Charcoal/Zeolite ดูดซับก๊าซพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงเทคโนโลยี UV-C สำหรับกำจัดไวรัส มีเซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษและแสดงค่า PM2.5 ตัวเครื่องสามารถควบคุมผ่านแอป Smartlife และมีโหมด Sleep พร้อมระบบ Auto ปรับความแรงลมอัตโนมัติ มีระบบเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศ รับประกันสินค้า 5 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-H3029US 

กำลังไฟฟ้า: 50 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น AP-H3029US เหมาะสำหรับห้องขนาด 40-80 ตารางเมตร มีระบบฟอกอากาศมากถึง 8 ขั้นตอน รวมถึงแผ่นกรอง HEPA H13 กรองละเอียด 0.01 ไมครอน และแสง UV-C สำหรับฆ่าเชื้อไวรัสในอากาศ ควบคุมการทำงานผ่าน WiFi และแอป Smartlife พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษ แสดงค่า PM2.5 เป็นตัวเลข ค่า CADR สูงถึง 775 m³/ชั่วโมง ตัวเครื่องมีระบบ Sleep Mode ตั้งเวลาปิดได้สูงสุด 12 ชั่วโมง และแจ้งเตือนอายุแผ่นกรอง รับประกันสินค้า 5 ปี

  • เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-P4019US

กำลังไฟฟ้า: 57 วัตต์

เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น AP-P4019US เหมาะสำหรับห้องขนาด 80-120 ตารางเมตร มีระบบกรอง 8 ขั้นตอน รวมถึงแผ่นกรอง HEPA H13 กรองละเอียด 0.003 ไมครอน แผ่นกรอง Antibacteria ดักจับแบคทีเรีย แผ่นกรอง Charcoal/Zeolite  สำหรับกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และดูดซับสารพิษ มาพร้อมฟังก์ชัน UV-C เพื่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศ สามารถปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ มีระบบตรวจจับคุณภาพอากาศ Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นตัวเลข และ Sleep Mode เพื่อการใช้งานในตอนกลางคืน รับประกันสินค้า 5 ปี

ตารางเปรียบเทียบกำลังไฟฟ้าเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่นจาก Bwell พร้อมคำนวณค่าไฟ

ชื่อรุ่นกำลังไฟฟ้า (W)ใช้งาน 24 ชม.(kWh)ใช้งาน 30 วัน (kWh)คำนวณค่าไฟต่อวัน (บาท)คำนวณค่าไฟต่อเดือน (บาท)คำนวณค่าไฟต่อปี (บาท)
เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G850.123.600.4814.40175.20
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น G9100.247.200.9628.80350.40
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S451.0832.404.32129.601,576.80
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219S380.9127.363.65109.441,331.52
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005601.4443.205.76172.802,102.40
เครื่องฟอกอากาศไวรัส รุ่น CF-8428551.3239.605.28158.401,927.20
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US571.3741.045.47164.161,997.28
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-H3029US501.2036.004.80144.001,752.00
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-P4019US571.3741.045.47164.161,997.28

* หมายเหตุ: คำนวณโดยสมมุติว่าค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4 บาทต่อ kWh

วิธีการใช้งานเครื่องฟอกอากาศให้ประหยัดพลังงาน

การใช้งานเครื่องฟอกอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน สามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

  1. เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับขนาดห้อง

การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่จะช่วยให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

  1. ใช้โหมดอัตโนมัติ

เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมีโหมดปรับความเร็วลมตามคุณภาพอากาศ ซึ่งช่วยให้เครื่องทำงานเมื่อจำเป็นและหยุดพักเมื่ออากาศสะอาด ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

  1. ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่อง

หากไม่มีความจำเป็นต้องเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลา ลองตั้งเวลาเปิด-ปิดเป็นช่วง ๆ เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานเฉพาะเวลาที่ต้องการ

  1. ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศสม่ำเสมอ

แผ่นกรองที่สกปรกจะทำให้เครื่องฟอกอากาศต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดึงอากาศผ่านแผ่นกรอง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กินไฟมากขึ้น ควรเปลี่ยนหรือทำความสะอาดแผ่นกรองตามคำแนะนำของผู้ผลิต

  1. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode)

ฟังก์ชันนี้มักมีในเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ ช่วยให้เครื่องลดการใช้พลังงานเมื่ออากาศสะอาดเพียงพอแล้ว

สรุป

การใช้เครื่องฟอกอากาศไม่ได้ทำให้ค่าไฟสูงอย่างที่หลายคนกังวล หากเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีมาตรฐานการใช้พลังงาน เช่น Energy Star และใช้งานอย่างถูกต้อง เครื่องฟอกอากาศจะสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เพิ่มภาระให้กับค่าไฟฟ้ามากนัก นอกจากนี้ หากต้องการประหยัดพลังงานมากขึ้น สามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันตรวจจับคุณภาพอากาศและปรับความแรงตามความจำเป็น โดยไม่ต้องเปิดความแรงสูงตลอดเวลา เช่น การตั้งเวลาใช้งานในช่วงเวลาที่จำเป็น การใช้โหมดอัตโนมัติหรือโหมดประหยัดพลังงานเพื่อให้เครื่องทำงานตามความต้องการเท่านั้น รวมถึงการทำความสะอาดแผ่นกรองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องทำงานประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น คุณจึงสามารถเปิดใช้เครื่องฟอกอากาศได้ตลอดเวลาเพื่อสุขภาพที่ดีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟมากเกินไป