5 เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่นไหนดีในปี 2568/2025 นี้ รีวิวมาให้ครบ

5 เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่นไหนดีในปี 25682025 นี้ รีวิวมาให้ครบ

ในยุคที่ปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง การมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้านหรือติดรถถือเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะแบรนด์เครื่องฟอกอากาศ Bwell ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและนวัตกรรมออกแบบมาเพื่อเด็กและผู้เป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ วันนี้เราจะมารีวิวเครื่องฟอกอากาศ Bwell 5 รุ่นที่น่าสนใจที่สุดในปี 2568/2025 นี้ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

เครื่องฟอกอากาศคืออะไร และช่วยเรื่องอะไร

เครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยกรองอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ เช่น ฝุ่น PM2.5 ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ รวมถึงสารเคมีและมลพิษอื่น ๆ ที่ปะปนอยู่ในอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีในการดักจับและกรองอากาศ การใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยทำให้อากาศภายในบ้าน ห้องทำงาน หรือรถยนต์สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพจากการสูดดมมลพิษทางอากาศ นอกจากจะช่วยในเรื่องของฝุ่นละอองแล้ว เครื่องฟอกอากาศยังมีประโยชน์ในการลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ทำให้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหืดหอบสามารถใช้ชีวิตได้สบายขึ้น

5 รุ่นเครื่องฟอกอากาศจาก Bwell ที่อยากแนะนำ

  • เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S

สร้างบรรยากาศสดชื่นให้กับพื้นที่ภายในบ้าน ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ทุกมุมห้อง พร้อมกรองฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ด้วยแผ่นกรอง HEPA เกรด H13

  • คุณสมบัติและจุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S

เครื่องฟอกอากาศรุ่น AP-M1536S มีระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน ได้แก่ แผ่น Prefilter กรองฝุ่นขนาดใหญ่ แผ่นกรอง HEPA H13 กรองละเอียด 0.1 ไมครอน ทั้ง PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ และแผ่น Charcoal ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีค่า CADR สูงถึง 450/375/355 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส รองรับการควบคุมผ่าน Wi-Fi และแอป Smartlife ปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ พร้อมระบบ Auto ตรวจจับมลพิษอัตโนมัติที่ช่วยปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในขณะนั้น ๆ มี Sleep Mode โหมด Child Lock และตั้งเวลาปิดได้ ทำงานเงียบ มาพร้อมระบบเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศ

  • ขนาดห้องที่เหมาะสม: ไม่เกิน 45 ตร.ม.
    • กำลังไฟฟ้า: 45 วัตต์
    • ราคา: 6,990 บาท
  • เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G8

เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ใช้งานง่ายที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ พร้อมแบตเตอรี่ในตัวและฟังก์ชันกรองฝุ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฟอกอากาศสะอาดในทุกการเดินทาง

  • คุณสมบัติและจุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G8

เครื่องฟอกอากาศรุ่น G8 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในรถยนต์ ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด แต่สามารถกรองฝุ่นละอองในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับการกรอง 4 ขั้นตอน เพื่อประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูงสุด เริ่มจากแผ่น Pre-filter ดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ เช่น เส้นผม ขนสัตว์ และละอองเกสร ต่อด้วยแผ่น HEPA H11 กรองฝุ่นขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน และแผ่น Carbon ที่ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เสริมด้วยระบบ UV ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย มีระบบปล่อยประจุไอออนลบเพื่อช่วยลดการสะสมของมลพิษในอากาศ และยังมีเสียงรบกวนต่ำขณะใช้งาน พร้อมแบตเตอรี่ในตัว 2600mAh ใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำงานเงียบ ใช้งานได้ในรถยนต์หรือพื้นที่ที่จำกัด

  • การใช้งานที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์ทุกขนาด หรือห้องขนาดไม่เกิน 10 ตารางเมตร
    • กำลังไฟฟ้า: 5V / 1A
    • ราคา: 2,990 บาท
  • เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219S

กรองอากาศอย่างสมบูรณ์แบบด้วยระบบฟอกอากาศ 6 ขั้นตอน กำจัดฝุ่นขนาดเล็กและสารก่อภูมิแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์และสดชื่นในทุกวัน

  • คุณสมบัติและจุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219S

เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219S เป็นเครื่องฟอกอากาศ 3 ขั้นตอนที่ประกอบด้วยแผ่น Prefilter สำหรับดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ เช่น เส้นผมและขนสัตว์ แผ่นกรอง HEPA H-13 ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างละเอียดถึง 0.1 ไมครอน และแผ่น Charcoal ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ควันบุหรี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นและสารก่อภูมิแพ้ สามารถควบคุมผ่าน Wi-Fi ด้วยแอพ Smartlife พร้อม Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 ระบบ Auto ปรับการทำงานอัตโนมัติ และ Sleep Mode สำหรับใช้งานในขณะนอนหลับ ทำงานระบบสัมผัส และมีโหมด Child Lock เพื่อความปลอดภัย ปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ ตั้งเวลาทำงานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง และระบบเตือนอายุแผ่นกรอง

  • ขนาดห้องที่เหมาะสม: ไม่เกิน 60 ตารางเมตร
    • กำลังไฟฟ้า: 38 วัตต์
    • ราคา: 9,990 บาท
  • เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005

หายใจอย่างมั่นใจด้วยเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อไวรัสในอากาศ พร้อมระบบฟอกอากาศขั้นสูงที่จะช่วยให้ทุกคนหายใจได้สะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรคทุกเวลา

  • คุณสมบัติและจุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005

เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัสรุ่น CF-8005 นี้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการกำจัดไวรัสและเชื้อแบคทีเรียในอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีแสง UV และแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกำจัดเชื้อโรคและฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเชื้อโรคในอากาศ โดยเฉพาะกลุ่มทารก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยภูมิแพ้ ด้วยระบบฟอกอากาศ 6 ขั้นตอนที่ครอบคลุมทั้งการกรองฝุ่นขนาดใหญ่ด้วย Prefilter การกรองฝุ่นละเอียดด้วย HEPA H-11 และแผ่นกรอง Charcoal/Zeolite กำจัดกลิ่นและก๊าซพิษ เช่น ฟอมัลดีไฮน์ เบนซิน แอมโมเนีย และสารอินทรีย์ไอระเหยอื่นๆ (VOCs) นอกจากนี้ยังมี Anti-Bacteria Filter ช่วยกรองแบคทีเรีย และระบบ UVGI สำหรับฆ่าเชื้อโรค สามารถปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ พร้อม Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 ระบบ Auto ตรวจจับมลพิษและปรับการทำงานอัตโนมัติ ทำงานเงียบด้วยเสียงต่ำสุดเพียง 14 dB

  • ขนาดห้องที่เหมาะสม: ไม่เกิน 10-20 ตารางเมตร
    • กำลังไฟฟ้า: 60 วัตต์
    • ราคา: 6,990 บาท
  • เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น G9

ช่วยให้ทุกการเดินทางสะอาดสดชื่น ด้วยเทคโนโลยีการกรองอากาศสุดทันสมัย เหมาะสำหรับการใช้ในรถยนต์เพื่อปกป้องคุณจากฝุ่นและมลพิษภายนอก พร้อมกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในทุกการขับขี่

  • คุณสมบัติและจุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น G9

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์รุ่น G9 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Bwell ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในรถยนต์โดยเฉพาะ มีระบบกรองฝุ่น PM2.5 ที่ทำงานรวดเร็ว สามารถกำจัดกลิ่นภายในรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยดีไซน์ที่เล็กและน้ำหนักเบา ทำให้ติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้ง่าย มีระบบฟอกอากาศ 5 ขั้นตอน มี Charcoal Filter ช่วยกำจัดกลิ่น สารพิษ และฟอร์มาลดีไฮด์ พร้อมด้วย HEPA H13 ที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กและสารก่อภูมิแพ้ Anti-Virus Filter ช่วยกำจัดไวรัสได้ถึง 99.9% มี UVA และ Ionizer สลายควันบุหรี่ ควบคุมการทำงานผ่านระบบสัมผัส ความจุแบตเตอรี่ 2600 mAh มีระดับเสียงขณะทำงานต่ำสุดเพียง 26 dB พร้อมตั้งเวลาปิดได้

  • การใช้งานที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์ทุกขนาด หรือห้องขนาดไม่เกิน 10 ตารางเมตร
    • กำลังไฟฟ้า: 5V (DC)
    • ราคา: 4,990 บาท

เครื่องฟอกอากาศมีกี่ประเภท

ปัจจุบันมีเครื่องฟอกอากาศหลายประเภทให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  1. เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรอง (HEPA Filter) เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน เช่น ฝุ่น PM2.5 เกสรดอกไม้ และเชื้อโรคในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจหรือโรคภูมิแพ้ และผู้ที่ต้องการกรองอากาศทั่วไปในบ้าน ห้องนอน ห้องทำงาน และสถานที่ที่ต้องการอากาศสะอาดบริสุทธิ์
  2. เครื่องฟอกอากาศที่ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Precipitators) เครื่องฟอกอากาศประเภทนี้จะใช้ไฟฟ้าสถิตในการดักจับอนุภาคในอากาศ มีข้อดีคือไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อย จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อแผ่นกรองและทำงานได้เงียบ
  3. เครื่องฟอกอากาศที่ใช้เทคโนโลยีโอโซน (Ozone Generators) ใช้โอโซนในการกำจัดเชื้อโรคและกลิ่น เนื่องจากโอโซนสามารถฆ่าเชื้อโรคและกลิ่นที่รุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร และกลิ่นเหม็นต่าง ๆ เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการควบคุมกลิ่นเป็นหลัก เช่น ร้านอาหาร ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีกลิ่นแรง
  4. เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แสงอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Germicidal Irradiation) เครื่องฟอกอากาศประเภทนี้ใช้แสง UV ในการฆ่าเชื้อโรคและไวรัสในอากาศ ซึ่งเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการควบคุมความสะอาดสูง เนื่องจากสามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสในอากาศได้ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค นอกจากนี้ยังไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อย เหมาะกับโรงพยาบาล คลินิก ห้องนอน หรือสถานที่ที่ต้องการความสะอาดระดับสูง

ทำไมต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ

การใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน เนื่องจากคุณภาพอากาศที่เราเผชิญในแต่ละวันนั้นเต็มไปด้วยมลพิษ ทั้งจากการคมนาคม อุตสาหกรรม และฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหืด ภูมิแพ้ หรือเด็กและผู้สูงอายุ การมีเครื่องฟอกอากาศในบ้านจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่อาศัยในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ที่มีปัญหามลพิษ เครื่องฟอกอากาศจะช่วยให้คุณสามารถหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าร่างกายได้มากขึ้น ลดการสัมผัสสารพิษในอากาศ และช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว

วิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมเพื่อการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับการใช้งานนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ใช่ทุกเครื่องที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ การเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับการใช้งานสามารถพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

  • ขนาดห้อง – ตรวจสอบว่าเครื่องฟอกอากาศที่คุณเลือกสามารถครอบคลุมพื้นที่ห้องได้พอดี โดยทั่วไปเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นจะระบุพื้นที่ใช้งานที่เหมาะสม เช่น 30 ตร.ม. หรือ 50 ตร.ม.
  • ประเภทของแผ่นกรอง – หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับภูมิแพ้หรือมีสัตว์เลี้ยง แนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรอง HEPA ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารก่อภูมิแพ้
  • ฟังก์ชันพิเศษ – เลือกเครื่องกรองอากาศให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น การกรองกลิ่น หรือระบบ UV ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค เพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและความสะดวกสบาย
  • เสียงรบกวน – ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีระดับเสียงต่ำ โดยเฉพาะถ้าใช้งานในห้องนอน เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนการนอนหลับ
  • การบำรุงรักษา – ตรวจสอบความง่ายในการทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นกรอง บางรุ่นอาจมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับงบประมาณ

สรุป

การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดีและเหมาะสมกับการใช้งานมีความสำคัญอย่างมากในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในยุคที่มลพิษทางอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 กลายเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญ เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพจะช่วยกรองอากาศให้บริสุทธิ์ ลดความเสี่ยงจากสารก่อภูมิแพ้ เชื้อโรค แบคทีเรีย รวมถึงสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย

แบรนด์ Bwell ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยเครื่องฟอกอากาศหลากหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเด็กและผู้เป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการกรองฝุ่น PM2.5 การลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไปจนถึงการลดสารก่อภูมิแพ้สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพด้านทางเดินหายใจ

การลงทุนในเครื่องฟอกอากาศที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้รับอากาศบริสุทธิ์ แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพของทุกคนในครอบครัว ให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกลมหายใจที่สูดเข้ามานั้นสะอาดและปลอดภัยตลอดทั้งปี

ทดลองใช้เครื่องฟอกอากาศ Bwell ได้แล้ววันนี้!

พบกับ Bwell Flagship Store ที่เปิดให้บริการแล้วที่ Crystal Design Center (CDC) ชั้น 1 โซน K1 (ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย)

🕙 เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน 10.00 – 20.00 น.
📞 ติดต่อสอบถาม: 02-100-5075
📌 ติดตามเราได้ที่: Facebook: Bwell Group

แวะมาสัมผัสประสบการณ์อากาศบริสุทธิ์ด้วยตัวคุณเอง! 🌿💨