ในยุคที่มลพิษทางอากาศกลายเป็นปัญหาใกล้ตัวมากขึ้น เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับหลายครัวเรือน แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ควรเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงดีหรือไม่?” บทความนี้จะพาคุณไปค้นหาคำตอบ พร้อมไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องฟอกอากาศให้มีประสิทธิภาพที่สุด
หลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศทำงานโดยการดูดอากาศเข้าไปผ่านระบบกรอง ซึ่งประกอบด้วยแผ่นกรองต่าง ๆ เช่น แผ่นกรอง HEPA Filter ที่ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก แผ่นกรองคาร์บอนที่ช่วยดูดซับกลิ่นและสารเคมี หรือเทคโนโลยี UV-C Light ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศ หลังจากนั้นอากาศที่สะอาดจะถูกปล่อยกลับออกมา ทำให้อากาศในห้องบริสุทธิ์ขึ้น เครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน บางรุ่นอาจเหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก ในขณะที่บางรุ่นสามารถกำจัดสิ่งสกปรกในอากาศในพื้นที่ใหญ่ได้ ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับขนาดห้องและความต้องการจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ข้อดีของการเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง
- อากาศบริสุทธิ์ตลอดเวลา
การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวันช่วยให้อากาศในห้องสะอาดอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคทางเดินหายใจ
- ลดสารก่อภูมิแพ้
เครื่องฟอกอากาศช่วยดักจับฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ และขนสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการแพ้
- กรองเชื้อโรคและไวรัส
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค เครื่องฟอกอากาศช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้เทคโนโลยี UV หรือ Ionizer
- ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีกลิ่นรบกวน การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาช่วยให้อากาศสดชื่นขึ้น
ข้อเสียของการเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง
- ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาย่อมส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น โดยเฉพาะรุ่นที่มีกำลังไฟสูง
- เสียงรบกวน
เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นอาจมีเสียงดังขณะทำงาน ซึ่งอาจรบกวนการพักผ่อนหรือการทำงาน
- การสึกหรอของแผ่นกรอง
- การใช้งานอย่างต่อเนื่องทำให้แผ่นกรองเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยครั้ง ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- อากาศแห้งเกินไป
ในบางกรณี การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาอาจทำให้ความชื้นในห้องลดลง ส่งผลให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง
ก่อนตัดสินใจเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลา ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
- ขนาดห้อง
เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดห้องเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
- สภาพอากาศในพื้นที่
หากอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงหรือมีฝุ่นควันมาก การเปิดเครื่องตลอดเวลาอาจเป็นทางเลือกที่ดี
- สุขภาพของผู้อยู่อาศัย
หากมีผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ป่วยในบ้าน การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
- ค่าใช้จ่าย
คำนวณค่าไฟฟ้าและค่าเปลี่ยนแผ่นกรองให้เหมาะสมกับงบประมาณ
มาดูตารางเปรียบเทียบ พร้อมคำนวณค่าไฟเครื่องฟอกอากาศ Bwell แต่ละรุ่น
| รุ่น | กำลังไฟ (วัตต์) | ค่าไฟต่อชั่วโมง (บาท)* | ค่าไฟต่อวัน (บาท)** |
| เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G8 | 5 | 0.025 | 0.60 |
| เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น G9 | 5 | 0.025 | 0.60 |
| เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S | 45 | 0.225 | 5.40 |
| เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219S | 38 | 0.19 | 4.56 |
| เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005 | 60 | 0.30 | 7.20 |
| เครื่องฟอกอากาศไวรัส รุ่น CF-8428 | 55 | 0.28 | 6.60 |
| เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US | 57 | 0.29 | 6.84 |
| เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-H3029US | 50 | 0.25 | 6.00 |
| เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-P4019US | 57 | 0.29 | 6.84 |
*คำนวณจากอัตราค่าไฟฟ้า 5 บาท/หน่วย
**คำนวณจากการเปิดเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง
จากตารางจะเห็นว่า การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลาส่งผลต่อค่าไฟฟ้าไม่มากนัก แต่ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับขนาดห้องและความต้องการเพื่อประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด
ข้อแนะนำการใช้เครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสม
การใช้เครื่องฟอกอากาศให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีอากาศที่บริสุทธิ์ในบ้าน แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศได้ยาวนานขึ้น ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี
- เลือกเครื่องให้เหมาะกับขนาดห้อง
การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศที่เหมาะสมกับขนาดห้องเป็นสิ่งสำคัญ ตัวเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศสูงเกินไปในห้องขนาดเล็กจะทำให้ใช้พลังงานมากเกินความจำเป็น ส่วนเครื่องที่มีประสิทธิภาพน้อยเกินไปในห้องขนาดใหญ่จะทำให้ไม่สามารถกรองอากาศได้เต็มที่ ดังนั้นควรเลือกเครื่องที่มีความเหมาะสมกับขนาดของห้องและจำนวนผู้ใช้งาน
- เปิดเครื่องในช่วงที่จำเป็น
การเปิดเครื่องฟอกอากาศในช่วงที่อากาศมีมลพิษสูงหรือเมื่อมีคนจำนวนมากในห้องจะช่วยให้การฟอกอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ในช่วงที่อากาศภายนอกมีฝุ่นละอองหรือมลพิษสูง หรือในช่วงที่มีคนอยู่ในห้องจำนวนมาก ซึ่งทำให้ปริมาณการหายใจและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น การเปิดเครื่องในช่วงนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสกับสารก่อมลพิษได้
- ทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นกรองสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นกรองของเครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง หากไม่ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนแผ่นกรองเมื่อถึงเวลาที่กำหนด เครื่องฟอกอากาศอาจไม่สามารถกรองอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรืออาจทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกรองและลดการใช้พลังงานลงได้
- ใช้ร่วมกับการระบายอากาศธรรมชาติ
การเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทในบางช่วงเวลาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อากาศภายนอกไม่มีกลิ่นหรือมลพิษสูง การเปิดหน้าต่างบ้างในบางช่วงเวลาจะช่วยให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนและช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องฟอกอากาศตลอดเวลา
- ปิดเครื่องเมื่อไม่อยู่บ้าน
เมื่อไม่อยู่บ้าน ควรปิดเครื่องฟอกอากาศเพื่อประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของเครื่อง เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศต้องการพลังงานในการทำงานอย่างต่อเนื่อง การปิดเครื่องเมื่อไม่อยู่บ้านจะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟและช่วยให้เครื่องฟอกอากาศมีอายุการใช้งานนานขึ้น
สรุป
การใช้เครื่องฟอกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความต้องการส่วนบุคคล หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงหรือมีปัญหาสุขภาพ การเปิดเครื่องตลอดเวลาอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดพลังงานหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศค่อนข้างบริสุทธิ์ การเปิดเครื่องเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นก็เพียงพอ สุดท้ายนี้ การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณได้อากาศบริสุทธิ์ พร้อมดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ การดูแลรักษาและการใช้งานเครื่องฟอกอากาศอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีอากาศที่บริสุทธิ์ แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและยืดอายุการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
-
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-H3029US25,990฿ -
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-80056,990฿ -
เครื่องฟอกอากาศไวรัส รุ่น CF-842817,990฿ -
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น G94,990฿ -
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US11,990฿ -
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-P4019US32,990฿ -
Product on sale
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219SOriginal price was: 9,990฿.6,990฿Current price is: 6,990฿. -
Product on sale
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536SOriginal price was: 6,990฿.3,990฿Current price is: 3,990฿. -
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-842817,990฿

