ปัจจุบัน ปัญหามลพิษทางอากาศยังคงเป็นปัญหาสำคัญ การที่เรามี เครื่องฟอกอากาศ ที่เหมาะสมภายในบ้านเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์และคุ้มค่ากับการลงทุน ต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศได้อย่างชาญฉลาด
ทำไมต้องมีเครื่องฟอกอากาศ?
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถลอยอยู่ในอากาศและเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านทางการหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจและโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ จะช่วยกรองฝุ่นละอองเหล่านี้ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้อากาศในบ้านสะอาดบริสุทธิ์ และส่งผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว
5 วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ให้เหมาะกับบ้านคุณ
แล้วก็มาถึง วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ที่จะมาแนะนำต่อไปนี้ ต้องบอกว่า การมีเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมภายในบ้านจึงเป็นทางออกสำคัญ แต่การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ใช่สำหรับคุณไม่ได้มีแค่เรื่องราคาเท่านั้นที่ต้องพิจารณา และนี่คือ วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เราขอแนะนำ
1. เลือกเครื่องฟอกอากาศตามขนาดพื้นที่การใช้งาน
เครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นจะมีระบุพื้นที่การใช้งานที่เหมาะสม เช่น ห้องขนาด 20-40 ตารางเมตร หรือ 50 ตารางเมตรขึ้นไป หากเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น ดังนั้น ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศ ที่มีค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) เหมาะสมกับขนาดห้อง เพื่อให้เครื่องสามารถฟอกอากาศได้ทั่วถึง
พื้นที่ห้องเท่านี้ ค่า CADR แนะนำขั้นต่ำต้องเท่าไหร่
พื้นที่ห้อง (ตารางเมตร) | ค่า CADR ขั้นต่ำที่แนะนำ |
26 | 200 |
40 | 300 |
53 | 400 |
66 | 472 |
88 | 688 |
2. ตรวจสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ
ปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศ มีเทคโนโลยีการกรองอากาศที่ทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- แผ่นกรอง HEPA: กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง PM2.5
- แผ่นกรองคาร์บอน: ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร
- แผ่นกรองโพลีฟีนอล: ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
- เทคโนโลยี Ionizer: ปล่อยประจุลบเพื่อจับอนุภาคฝุ่นละออง
ไม่เพียงเท่านี้ วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศควรเลือกเครื่องที่มีไส้กรองที่ตอบโจทย์ความต้องการ เช่น กรองฝุ่นในเมือง หรือกำจัดกลิ่นในบ้าน
3. ตรวจสอบระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศ
หากต้องการใช้ในห้องนอนหรือห้องทำงาน การตรวจสอบระดับเสียงของเครื่องในระหว่างการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เครื่องที่เสียงดังเกินไปอาจรบกวนการนอนหรือการทำงาน เลือกเครื่องที่มีโหมดเงียบ (Sleep Mode) เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในช่วงเวลาต่าง ๆ
4. พิจารณาคุณสมบัติเสริม
เครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันมักมาพร้อมฟังก์ชันเสริม เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ปรับความเร็วพัดลมอัตโนมัติตามระดับมลพิษ, ระบบควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ควบคุมการทำงานของเครื่องผ่านสมาร์ทโฟน, และระบบฆ่าเชื้อโรคด้วย UV หรือ Ionizer เลือกฟังก์ชันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่อเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งาน
5. คำนึงถึงค่าใช้จ่ายระยะยาว
อีกหนึ่งวิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่สำคัญไม่แพ้ 4 ข้อแรกที่ได้กล่าวไป นอกจากเรื่องของราคาที่ต้องพิจารณาแล้ว เพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด เราควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองและค่าพลังงานไฟฟ้า การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองอายุการใช้งานนาน จะช่วยทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแผ่นกรองนั่นเอง
และนี่คือ 5 วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และถ้าคุณกำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศคุณภาพ เราขอแนะนำ เครื่องฟอกอากาศ Bwell ที่มีจุดเด่นในด้านระบบการฟอกอากาศ ที่สามารถกรองฝุ่น ฆ่าแบคทีเรีย ได้สูงถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ Bwell มีเครื่องฟอกอากาศหลากหลายรูปแบบ ที่เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน ออกแบบมาเพื่อบุคคลทั่วไป ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน รวมถึงใส่ใจต่อผู้ใช้งานที่ต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษ เช่น ทารก เด็ก รวมถึง ผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้ และนี่คือ 2 รุ่นที่เราขอแนะนำ มีติดบ้านไว้ อุ่นใจ หายกังวล
1. Bwell เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่นิยมใช้ในบ้าน โดยเฉพาะห้องขนาด 10-30 ตารางเมตร มีระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอนช่วยกรองฝุ่น PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสร ขนสัตว์ อีกทั้งยังมี Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นสี ตั้งเวลาปิดได้ถึง 8 ชั่วโมง
2. Bwell เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องขนาด 60 ตารางเมตร มีระบบฟอกอากาศ 6 ขั้นตอน มีแผ่นกรอง HEPA เกรด H-13 ละเอียด 0.01 ไมครอน สามารถฆ่าเชื้อไวรัสในอากาศด้วยแสง UV-C เชื่อมต่อ Wifi และควบคุมการทำงานด้วยแอป Smart life
และตอนนี้ Bwell ได้เปิด Flagship Store ที่นี่นอกจากจะมีสินค้าในเครือ Bwell Group จำหน่ายแล้ว ที่นี่ยังมีบริการให้คำปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ บริการส่งซ่อมสินค้าโซนกรุงเทพตะวันออก เปลี่ยนอะไหล่ผลิตภัณฑ์ ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ สินค้า แผ่นฟอกอากาศ ลดราคาถึง 10% อีกด้วย
คุณสามารถแวะเข้ามาทดลองใช้ เครื่องฟอกอากาศ Bwell ได้ที่ Bwell Flagship Store เปิดให้บริการแล้ววันนี้ที่ Crystal Design Center (CDC) ชั้น 1 โซน K1 ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-100-5075 หรือที่ Facebook Bwell Group