เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพในยุค Hybrid Work ช่วยป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้จริงหรือ?

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพในยุค Hybrid Work ช่วยป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้จริงหรือ?

Hybrid Work หรือการทำงานแบบผสมผสานระหว่างที่บ้านและที่ออฟฟิศ กลายเป็นรูปแบบการทำงานใหม่ที่คนยุคนี้คุ้นเคยกันมากขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 หลายองค์กรเริ่มปรับตัว และเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งแม้จะดูสะดวกสบาย แต่ก็นำมาซึ่งอีกหนึ่งปัญหาที่กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่รู้ตัว นั่นคือ ออฟฟิศซินโดรม หรืออาการปวดเมื่อยเรื้อรังจากการนั่งทำงานนาน ๆ สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้าม แต่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของปัญหานี้ได้อย่างมากก็คือ เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพนั่นเอง แล้วเบาะชนิดนี้ช่วยได้จริงหรือ? บทความนี้มี Bwell คำตอบ

ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร?

หลายคนอาจเคยสัมผัสกับอาการปวดเมื่อย เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ ตึงคอ หรือชาตามขา ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณของออฟฟิศซินโดรม กลุ่มอาการนี้เกิดจากการใช้ร่างกายในท่าทางซ้ำ ๆ หรือท่าที่ผิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เมื่อทำงานที่บ้าน เราอาจไม่มีเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ โต๊ะเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ แต่ใช้เก้าอี้ทานข้าวหรือโซฟาเป็นที่ทำงานแทน ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงกดทับตามจุดสำคัญ เช่น หลังส่วนล่าง ก้นกบ สะโพก หรือไหล่ จนนำไปสู่อาการปวดเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพคืออะไร?

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ คืออุปกรณ์ที่ช่วยรองรับน้ำหนัก กระจายแรงกด และช่วยปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics) โดยเฉพาะบริเวณสะโพก ก้นกบ และกระดูกเชิงกราน ซึ่งเป็นจุดที่มักรับน้ำหนักมากเมื่อเรานั่งนาน ๆ จุดเด่นของเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพเหล่านี้ คือการช่วยลดแรงกดทับ ป้องกันการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ และสนับสนุนให้ผู้ใช้นั่งในท่าทางที่ถูกต้องได้โดยไม่ต้องฝืน จัดเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ดีเยี่ยม

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพช่วยป้องกันออฟฟิศซินโดรมได้อย่างไร?

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพไม่ใช่แค่ของเสริม แต่เป็นอุปกรณ์ที่มีผลต่อสุขภาพอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในการลดความเสี่ยงของออฟฟิศซินโดรม ดังนี้

  • สร้างพฤติกรรมการเคลื่อนไหวขณะนั่ง (Postural Shift)

กุญแจสำคัญของเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ คือการส่งเสริม Postural Shift หรือการเปลี่ยนท่านั่งอย่างสม่ำเสมอ แทนการนั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน โดยภาควิชากายภาพบำบัด คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำงานวิจัยแบบทดสอบควบคุม (RCT) ในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ 133 คน พบว่าเมื่อใช้เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ ซึ่งกระตุ้นการเปลี่ยนอิริยาบถ ผลคืออัตราการเกิดอาการปวดคอลดลงจาก 65 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 15 เปอร์เซ็นต์ และอาการปวดหลังลดลงจาก 59 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ การศึกษายังชี้ว่า เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพนี้ยังช่วยให้มีแรงกดบริเวณใต้ก้นลดลง และเพิ่มการหล่อเลี้ยงเลือดตามเส้นเลือดเล็ก ซึ่งช่วยลดอาการเมื่อยล้าและเสริมสุขภาพของเนื้อเยื่อรองรับท้ายทอยและหลังส่วนล่างได้อีกด้วย

  • กระจายน้ำหนักบริเวณก้นและสะโพก

ดีไซน์ของเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพแบบเมมโมรี่โฟมถูกออกแบบมาเพื่อให้แรงกดจากน้ำหนักร่างกายกระจายไปทั่วพื้นผิว ไม่กดทับจุดเดิมนานเกินไป ทำให้ลดปัญหาอาการเจ็บก้นกบหรือสะโพกได้ชัดเจน การศึกษายังแสดงว่าเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพแบบนี้ช่วยให้กระดูกเชิงกรานจัดวางในแนวที่ถูกต้องมากขึ้น ทำให้อาการปวดบริเวณหลังส่วนล่างลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

  • กระตุ้นกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core Muscles)

การใช้เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพจะทำให้ผู้ใช้ต้องปรับกล้ามเนื้อช่วงลำตัวอยู่เสมอ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง ไม่ให้หลังโก่งหรือกล้ามเนื้อรับภาระหนักเกินไป งานวิจัยพบว่าใช้เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพช่วยให้ประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อลำตัวดีขึ้น นอกจากนี้ผลการศึกษาระยะเวลา 6 เดือน ยังพบอีกว่า กลุ่มผู้ใช้เบาะแบบนี้ฟื้นตัวจากอาการปวดคอและหลังได้เร็วกว่าบุคคลทั่วไป และมีแนวโน้มกลับมาปวดซ้ำน้อยกว่าอีกด้วย

  • ระบายอากาศ ลดการอับชื้นและความร้อน

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพบางรุ่น เช่น เบาะเจล หรือเบาะรองนั่งเมมโมรี่โฟม ช่วยให้มีการหมุนเวียนอากาศดีขึ้น ลดการสะสมของเหงื่อ อากาศร้อน และความอับชื้น ไม่เพียงช่วยให้สบาย แต่ยังลดโอกาสการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ งานวิจัยกลุ่มคนขับรถระยะไกลที่มีอาการปวดหลังในระดับเรื้อรังของ น.พ. Jang Woo Lee ยังพบว่า การใช้เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพแบบเจลช่วยลดคะแนนความเจ็บปวดได้มากกว่าเบาะโฟมทั่วไปอย่างชัดเจน

ข้อควรระวังเมื่อต้องเลือกเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ สำหรับป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม

การใช้เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องใช้ให้ถูกวิธี ไม่ใช่แค่ซื้อมาแล้ววางแล้วจบไป

  • ควรเลือกเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีคุณสมบัติในการรองรับน้ำหนัก และระบายอากาศได้ดี
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ความหนาและความแน่นของเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ ไม่ส่งผลให้ท่านั่งสูงผิดปกติ จนอาจย้อนกลับมาเป็นอันตรายต่อกระดูกสันหลัง
  • เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพที่ดีควรมีฐานกันลื่น และปลอกผ้าถอดซักได้ ไม่เก็บฝุ่น เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี

ควรใช้คู่กับพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ลุกยืนเปลี่ยนอิริยาบถ, จัดโต๊ะทำงาน, ดูแลท่านั่งอย่างถูกวิธี จะช่วยส่งเสริมการป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้ดียิ่งขึ้น

เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพไม่ใช่เพียงแค่อุปกรณ์เสริมเพื่อความสบาย แต่คือเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม ที่ช่วยให้คนทำงานสามารถนั่งได้อย่างถูกต้อง สบายตัว และลดปัญหาเรื้อรังจากการนั่งทำงานนาน ยิ่งในยุค Hybrid Work ที่เรามีอิสระมากขึ้นในการเลือกสถานที่ทำงาน สุขภาพก็ต้องไม่ถูกละเลยเช่นกัน การเลือกเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพที่ดี คือการลงทุนกับสุขภาพในระยะยาวที่คุ้มค่า และช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแลกมาด้วยอาการปวดเรื้อรังหรือความเหนื่อยล้าเกินจำเป็น

สุดท้ายนี้ท่านใดที่สนใจเบาะรองนั่งคุณภาพสูง Bwell มีสินค้าเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ผลิตวัสดุคุณภาพสูงอย่าง Cool Gel Memory Foam ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความนุ่มสบายลงตัวทุกสรีระ สามารถคืนรูปกลับมาได้ 100 เปอร์เซ็นต์ นั่งแล้วไม่รู้สึกร้อน ทำให้สามารถนั่งใช้งานได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน แถมยังมีปุ่มกันลื่นด้านล่างเพื่อให้แนบติดกับเก้าอี้ได้มากยิ่งขึ้นด้วย สนใจสามารถรับชมสินค้าเพิ่มเติมได้บนหน้าเว็บไซต์ของเราได้เลย