เมื่อมลพิษทางอากาศเพิ่มสูงขึ้น หลายท่านจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองมลพิษจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หนึ่งในเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศคือ “ค่า CADR” หรือ อัตราการส่งมอบอากาศที่สะอาด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนถึงความสามารถของเครื่องฟอกอากาศในการกรองมลพิษ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ และควันบุหรี่จากอากาศภายในห้อง
ค่า CADR ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราทราบถึงความสามารถของเครื่องฟอกอากาศเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเลือกเครื่องฟอกอากาศได้เหมาะสมกับบริบททั้งขนาดห้องและความต้องการในการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับค่า CADR และทำไมค่า CADR ถึงมีความสำคัญต่อการเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับใช้ในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัวของคุณ
ค่า CADR คืออะไร
CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือ อัตราการส่งมอบอากาศที่สะอาด คือ ค่าที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพในการกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศ โดยค่า CADR จะบ่งชี้ว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถกรองมลพิษมลพิษ 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ฝุ่นละออง ขนสัตว์จากสัตว์เลี้ยง และควันจากการสูบบุหรี่ในอากาศได้เร็วแค่ไหน ซึ่งจะวัดในหน่วยลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) กล่าวคือ เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองและทำความสะอาดอากาศได้มากน้อยแค่ไหนภายในระยะเวลา 1 นาที
การทดสอบค่า CADR จะประเมินโดยการปล่อยมลพิษในอากาศภายในพื้นที่ปิดและวัดว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถกำจัดมลพิษเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด ยิ่งค่า CADR สูงก็หมายถึงเครื่องฟอกอากาศสามารถทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศที่มีมลพิษในพื้นที่นั้น ๆ อย่างไรก็ตาม การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูงไม่สามารถบอกได้ว่าเครื่องนั้นจะเหมาะสมกับทุกห้องเสมอไป ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย
ค่า CADR สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง
ค่า CADR สามารถบอกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศในด้านต่าง ๆ เช่น
- ประสิทธิภาพในการกรองอากาศ
ค่า CADR ทำให้เราทราบว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถกรองมลพิษจากอากาศได้ในอัตราเท่าใด ซึ่งช่วยให้เราทราบถึงความสามารถในการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ เช่น หากเครื่องฟอกอากาศมีค่า CADR สูง แสดงว่าเครื่องนั้นสามารถกรองอากาศและขจัดมลพิษได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องที่มีค่า CADR ต่ำ
- ความสามารถในการกำจัดมลพิษแต่ละประเภท
ค่า CADR แบ่งการวัดมลพิษออกเป็นหลายประเภท เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ และสารก่อภูมิแพ้ โดยเครื่องที่มีค่ากำจัดฝุ่นละอองสูงอาจจะไม่ได้แปลว่าจะสามารถกำจัดควันบุหรี่หรือสารก่อภูมิแพ้ได้ดีเท่ากัน ดังนั้น ค่า CADR สามารถบอกได้ว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นเหมาะสมกับการใช้งานประเภทใดได้อีกด้วย
- ขนาดห้องที่เหมาะสม
ค่า CADR ยังช่วยในการประเมินเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดห้อง เช่น หากเราเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูงในด้านฝุ่นละออง ก็จะช่วยให้สามารถใช้ในห้องที่มีขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ซึ่งการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR เหมาะสมกับขนาดห้องจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
- ความเร็วในการทำความสะอาดอากาศ
ค่า CADR ยังบอกถึงความเร็วที่เครื่องฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดอากาศในห้องได้ ซึ่งหากค่า CADR สูง แสดงว่าเครื่องสามารถทำงานในการกรองมลพิษได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศสะอาดภายในห้องเร็วขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงจากมลพิษในอากาศได้มากขึ้น
- ความน่าเชื่อถือของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR ที่ได้รับการทดสอบและรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น AHAM (Association of Home Appliance Manufacturers) หรือ UL (Underwriters Laboratories) จะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเครื่องฟอกอากาศที่เลือกใช้นั้นมีประสิทธิภาพจริง ๆ ตามที่โฆษณา
- เลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม
ค่า CADR ยังช่วยให้ผู้ใช้เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น ในบ้านที่มีการสูบบุหรี่ หรือมีสัตว์เลี้ยง การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สำหรับควันบุหรี่หรือขนสัตว์จะช่วยให้ประสิทธิภาพการกรองสูงสุด
ใครเป็นผู้กำหนดและทดสอบค่า CADR
การทดสอบและกำหนดค่า CADR มักดำเนินการโดยหน่วยงานที่เชี่ยวชาญในด้านการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องฟอกอากาศ หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการทดสอบและกำหนดค่า CADR ได้แก่
- AHAM (Association of Home Appliance Manufacturers)
AHAM เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐอเมริกาที่มีบทบาทในการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน รวมถึงเครื่องฟอกอากาศ โดย AHAM จะทดสอบเครื่องฟอกอากาศในห้องที่มีขนาดตามมาตรฐาน และใช้เครื่องมือวัดเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการกรองมลพิษ เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ และสารก่อภูมิแพ้ การทดสอบนี้จะคำนวณค่าอัตราการไหลของอากาศบริสุทธิ์ หรือ CADR โดยวัดปริมาณอากาศที่เครื่องสามารถกรองได้ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) เครื่องฟอกอากาศที่ผ่านการทดสอบของ AHAM จะได้รับการรับรอง CADR ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
- UL (Underwriters Laboratories)
UL เป็นองค์กรที่มีหน้าที่ทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงเครื่องฟอกอากาศ โดย UL จะใช้กระบวนการทดสอบที่คล้ายคลึงกับ AHAM แต่จะเน้นเป็นพิเศษที่การตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องฟอกอากาศขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการประเมินประสิทธิภาพของการกรองอากาศในหลายสถานการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ISO (International Organization for Standardization)
บางครั้งการทดสอบค่า CADR อาจอ้างอิงมาตรฐานของ ISO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่กำหนดมาตรฐานในด้านเทคนิคและอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น มาตรฐาน ISO 16890 ที่ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพการกรองของตัวกรองอากาศในเครื่องฟอกอากาศ แม้ว่ามาตรฐานนี้จะไม่ได้ระบุค่า CADR โดยตรง แต่ก็ครอบคลุมถึงประสิทธิภาพและวิธีการทดสอบของเครื่องฟอกอากาศในภาพรวม
- ผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศ
บางครั้งผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศอาจทำการทดสอบและกำหนดค่า CADR เองตามมาตรฐานของ AHAM หรือ UL เพื่อแสดงข้อมูลให้ลูกค้าทราบ อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบเหล่านี้อาจไม่เป็นที่เชื่อถือได้เสมอไปหากไม่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ
ดังนั้น การทดสอบค่า CADR โดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น AHAM และ UL ช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศที่ชัดเจนและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมของแต่ละบ้านได้
ทำไมค่า CADR ถึงสำคัญ
ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) มีความสำคัญอย่างมากในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เนื่องจากช่วยให้ผู้บริโภคสามารถประเมินได้ว่าเครื่องฟอกอากาศนั้น ๆ จะสามารถกรองอากาศในห้องได้ดีเพียงใดและสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านได้หรือไม่ ดังนั้น การทำความเข้าใจในค่า CADR จึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
- แสดงประสิทธิภาพในการกรองอากาศ
ค่า CADR แสดงถึงความสามารถของเครื่องฟอกอากาศในการกรองฝุ่นละออง ควันบุหรี่ หรือสารก่อภูมิแพ้ โดยจะระบุเป็นปริมาณอากาศที่สามารถกรองได้ภายในหนึ่งนาที (CFM) ค่า CADR ที่สูงหมายความว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถกรองอากาศได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในห้องได้ดีขึ้น
- ใช้ในการพิจารณาเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
ค่า CADR ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดของห้องที่ต้องการใช้งานได้อย่างถูกต้อง หากห้องมีขนาดใหญ่ ค่าของ CADR ควรจะต้องสูงขึ้นเพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องขนาดใหญ่ ค่า CADR ที่ต่ำเกินไปอาจทำให้เครื่องฟอกอากาศไม่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศเท่าที่ควร
- ช่วยลดมลพิษในอากาศ
เครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูงสามารถช่วยลดมลพิษในอากาศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR ต่ำ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ควัน หรือสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น หรือ ขนสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพหากเครื่องฟอกอากาศไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
- ปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน
ค่า CADR ยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้านด้วยการลดระดับสารมลพิษ เช่น ฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งมีส่วนช่วยให้สภาพแวดล้อมในบ้านดีขึ้นและทำให้ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือปัญหาทางเดินหายใจรู้สึกหายใจได้สะดวกขึ้น
- เพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน
การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูงจะทำให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเป็นระยะเวลานาน โดยไม่ต้องซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อยเกินไป
ข้อควรพิจารณาค่า CADR ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
เมื่อเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ค่า CADR เป็นปัจจัยที่หลัก ๆ ต้องพิจารณา โดยเราสามารถใช้ค่า CADR ประกอบการตัดสินใจเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
- ขนาดของห้อง: ก่อนเลือกเครื่องฟอกอากาศ ควรตรวจสอบขนาดของห้อง และเลือกเครื่องที่มีค่า CADR เหมาะสม เพื่อให้สามารถทำความสะอาดอากาศในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่เหมาะสม
- ประเภทของมลพิษ: คำนึงถึงประเภทของมลพิษที่คุณต้องการกำจัด เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ หรือควัน หากคุณมีสัตว์เลี้ยงหรือมีคนสูบบุหรี่ในบ้าน คุณอาจต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สำหรับฝุ่นและควันบุหรี่สูง
- การใช้งาน: หากคุณต้องการให้เครื่องฟอกอากาศทำงานต่อเนื่องในห้องขนาดใหญ่ ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR สูง เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สรุปค่า CADR
ค่า CADR คือ ค่าที่ใช้ในการชี้วัดประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศในการกรองอากาศจากฝุ่น ขนสัตว์จากสัตว์เลี้ยง และควันบุหรี่ โดยบ่งบอกถึงอัตราการกรองอากาศที่สะอาดในหนึ่งนาที ค่า CADR สูงบ่งชี้ว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถกรองอากาศได้ดีและรวดเร็ว ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ และยังหมายถึงการกรองอากาศที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การเลือกเครื่องที่มีค่า CADR เหมาะสมกับขนาดห้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการใช้เครื่องฟอกอากาศให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด การทำความเข้าใจค่า CADR และการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถอาศัยในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัยจากมลพิษต่าง ๆ และลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพได้ในระยะยาว
-
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-H3029US25,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-80056,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศไวรัส รุ่น CF-842817,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US11,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-P4019US32,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-H2219SProduct on sale6,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536SProduct on sale3,990฿
-
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-842817,990฿