ทำความรู้จักกับ ไรฝุ่น วายร้ายต้นเหตุโรคภูมิแพ้ อันตรายที่ซ่อนอยู่ในบ้าน

เครื่องดูดฝุ่นไรฝุ่น

ไรฝุ่น เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่แฝงตัวอยู่ในบ้านของเราโดยที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกตเห็น แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ไรฝุ่นกลับเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ ไรฝุ่นพบได้ในทุกมุมของบ้าน โดยเฉพาะในที่นอน หมอน พรม และผ้าม่าน บทความนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ ไรฝุ่น มาจากไหน มีวิธีป้องกันอย่างไร แล้วถ้าหากเราถูกตัวไรฝุ่นกัด จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

ไรฝุ่น คืออะไร มาจากไหน?

ไรฝุ่น (Dust Mites) เป็นตัวไรที่มีขนาดเล็กเพียง 0.2-0.3 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ที่อาศัยอยู่ในฝุ่นละอองทั่วไป ไรฝุ่นชอบความชื้น มักพบในที่นอน พรม ผ้าม่าน และ เฟอร์นิเจอร์ที่มีบุผ้า เมื่อไรฝุ่นกินอาหารเข้าไป มูลของมันจะปลิวลอยอยู่ในอากาศ และเมื่อเราสูดเข้าไปหรือสัมผัสกับผิวหนัง ก็จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้

ตัวไรฝุ่นกัด มีอาการเป็นยังไง

หลายคนอาจเข้าใจว่าที่เกิดอาการผื่นแดงคัน หรือระคายเคืองบริเวณผิวหนัง อาจเป็นเพราะตัวไรฝุ่นกัด หรือเปล่า จริง ๆ แล้ว ไรฝุ่นไม่ได้กัดคน เนื่องจากไม่มีอวัยวะที่ใช้กัด อีกทั้งตัวไรฝุ่นเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าโดนไรฝุ่นกัดนั้น อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น

  • อาการแพ้ : เมื่อเราสูดเอาฝุ่นที่มีมูลของไรฝุ่นเข้าไป จะทำให้เกิดอาการคันตามผิวหนังได้ คล้ายกับถูกแมลงกัดต่อย แต่จริงๆ แล้วเป็นปฏิกิริยาแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ในมูลของไรฝุ่น
  • โรคผิวหนังอื่น ๆ : อาการคันตามผิวหนังอาจเกิดจากโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น ผื่นภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบ

อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังแพ้ ไรฝุ่น มีอะไรบ้าง

ต้องบอกว่า การแพ้ไรฝุ่นสามารถก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังมีอาการแพ้ไรฝุ่น ลองสังเกตจากอาการต่อไปนี้

  • อาการทางระบบทางเดินหายใจ มีอาการ ไอ เจ็บหรือระคายเคืองในลำคอ มีเสมหะร่วมด้วย 
  • มีอาการ จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก หรือแน่นจมูก หายใจลำบากหรือหอบหืด
  • มีอาการคันตา ใต้ดวงตาบวมช้ำ น้ำตาไหล บริเวณผิวหนังหรือดวงตา มีรอยแดง

แม้ว่าไรฝุ่นจะไม่กัดหรือดูดเลือดเหมือนแมลงอื่น ๆ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือเศษอุจจาระและเศษซากของไรฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ สิ่งเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เมื่อเราสูดดมเข้าไป จะทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล คันตา และอาการหอบหืด นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการแพ้ไรฝุ่นอาจมีอาการรุนแรงขึ้นในช่วงที่มีการสะสมของไรฝุ่นมาก เช่น ในช่วงที่ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอน

ดังนั้น อาการระคายเคืองบริเวณผิวหนังที่หลายคนคิดว่าอาจเป็นเพราะตัวไรฝุ่นกัด แท้จริงแล้วไม่ใช่ หากเราสูดเอาฝุ่นที่มีมูลของไรฝุ่นเข้าไปจะทำให้เกิดอาการแพ้ หากเกิดอาการดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์

กำจัดไรฝุ่นในบ้าน ทำอย่างไร

อย่างที่กล่าวไปว่า ไรฝุ่น เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในฝุ่นและเศษซากในบ้านของเรา การป้องกันอาการแพ้ไรฝุ่น สามารถทำได้โดยการลดปริมาณไรฝุ่นในบ้านและรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

1. เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน อย่างสม่ำเสมอ

แนะนำให้นำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูเตียง ไปทำความสะอาดเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส และควรนำไปตากแดด เพื่อช่วยไล่ความอับชื้นในที่นอน

2. หมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ

จัดระเบียบบ้าน ห้องนอนของเรา ให้สะอาดเรียบร้อย รวมถึงหมั่นทำความสะอาดผ้าม่าน, พรม โดยเฉพาะพรมที่อยู่บนพื้นปูน เนื่องจากเป็นแหล่งอาศัยของไรฝุ่น 

3. เปลี่ยนแผ่นกรองในเครื่องปรับอากาศ ทุก ๆ 3 เดือน

นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องปรับอากาศมีความเย็นแล้ว การเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน จะช่วยลดไรฝุ่นในบ้านได้อีกด้วย

4. ใช้เครื่องฟอกอากาศ 

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดปริมาณไรฝุ่นด้วยการใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน ที่นอกจากการทำความสะอาดแล้ว ยังช่วยลดสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ แนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศ ที่มีแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังสัตว์ โดยเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA จะช่วยลดปริมาณไรฝุ่นในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Bwell

5. ใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เป็นตัวช่วยในการลดไรฝุ่น

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย สามารถช่วยป้องกันไรฝุ่นในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย สามารถเคลื่อนย้ายไปยังที่ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ง่ายอีกทั้งยังสามารถดูดฝุ่นละออง ขนสัตว์ และเศษผงต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อีกด้วย

ต้องบอกว่าการใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายในการป้องกันไรฝุ่นในบ้าน ด้วยพลังดูดที่สูง ความสะดวกในการใช้งาน และคุณสมบัติที่ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายจึงเป็นเครื่องมือที่ทุกบ้านควรมี เพื่อรักษาความสะอาดและสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว Bwell ขอแนะนำ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รุ่น T12 Allergy Plus เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ แรงดูด 120 แอร์วัตต์ กรองทั้งหมด 6 ขั้นตอน มาพร้อมแท่นเก็บแบบชาร์จได้ ไม่ต้องเจาะผนัง บ้านสะอาดแม้ปาดเพียงครั้งเดียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

ไรฝุ่นอาจเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก การดูแลรักษาความสะอาดและป้องกันไรฝุ่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้และปกป้องสุขภาพของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ