PM2.5 นับเป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ซึ่งฝุ่นละออง PM2.5 สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางระบบทางเดินหายใจและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ ซึ่งวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงนั่นก็คือการใช้ เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 สามารถช่วยกรองฝุ่นละออง PM2.5 และสารก่อมลพิษอื่นๆ ออกจากอากาศ ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ วันนี้เราจะมาแนะนำ เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ที่จะช่วยดูแลสุขภาพให้คุณ ห่างไกลจากโรคต่าง ๆ
สาเหตุของการเกิด PM2.5 มีอะไรบ้าง
PM2.5 คือฝุ่นละอองที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางระบบทางเดินหายใจและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง สาเหตุของการเกิดฝุ่นละออง PM2.5 แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ
1. PM2.5 ที่เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ หรือ การกระทำของมนุษย์
ยกตัวอย่างเช่น การเผาไหม้ในครัวเรือน เช่น การเผาขยะ เผาเศษวัสดุการเกษตร การเผาไหม้เชื้อเพลิง อาทิ ไอเสียจากรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า ควันจากไฟป่า ฝุ่นจากภูเขาไฟ
2. PM2.5 ที่เกิดจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ยกตัวอย่างเช่น ปฏิกิริยาเคมีของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) กับความชื้นในอากาศ ทำให้เกิดกรดซัลฟิวริก (H2SO4) และกรดไนตริก (HNO3) ซึ่งสามารถจับตัวกับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ กลายเป็นฝุ่นละออง PM2.5
ในประเทศไทย สาเหตุหลักของการเกิด PM2.5 มาจากการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร ถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิด PM2.5 เนื่องจากเศษวัสดุเหล่านี้มีส่วนประกอบของสารอินทรีย์ต่างๆ เมื่อเผาไหม้จะทำให้เกิดอนุภาคขนาดเล็ก รวมถึง การเผาป่า เนื่องจากป่าไม้เป็นแหล่งกักเก็บฝุ่นละออง PM2.5 เมื่อมีการเผาป่า ฝุ่นละออง PM2.5 จะถูกปล่อยสู่อากาศเป็นจำนวนมากนั่นเอง
เครื่องฟอกอากาศ ช่วยเรื่อง PM2.5 ได้อย่างไร
เครื่องฟอกอากาศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก หรือ ,เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยกรองฝุ่นละออง PM2.5 และสารก่อมลพิษอื่นๆ ออกจากอากาศ ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ
เครื่องฟอกอากาศทำงานโดยการดูดอากาศเข้าไป ผ่านแผ่นกรองที่ดักจับฝุ่นละอองไว้ จากนั้นปล่อยอากาศที่สะอาดออกมา แผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง PM2.5 ได้ดีเยี่ยม ได้แก่ แผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละออง PM2.5 ได้มากกว่า 99.97%
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศมีอะไรบ้าง
หากคุณต้องการป้องกันตนเองและครอบครัวจากฝุ่นละออง PM2.5 เครื่องฟอกอากาศ ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเครื่องฟอกอากาศนั้น
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้
- ช่วยให้อากาศหายใจสะอาดและรู้สึกสบายใจ
- ปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน

เลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5
หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ที่ช่วยกรองอากาศให้สะอาด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค การเลือกเครื่องฟอกอากาศ ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น PM2.5 เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก หรือ เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นละออง PM2.5
ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองประสิทธิภาพสูง เช่น แผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละออง PM2.5 ได้มากกว่า 99.97%
2. ขนาดของห้อง
ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีกำลังการฟอกอากาศเพียงพอกับขนาดของห้อง ดังนี้
2.1 ห้องขนาดใหญ่หรือมีพื้นที่มาก
แนะนำให้ใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการฟอกอากาศสูง ในการครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด หากใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีความสามารถในการฟอกอากาศต่ำ อาจทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักเกินไป หรือไม่สามารถฟอกอากาศได้ทั่วทั้งห้อง
2.2 ห้องขนาดเล็ก หรือมีพื้นที่น้อย
แนะนำให้ใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ในการฟอกอากาศได้อย่างเพียงพอ หากใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีความสามารถในการฟอกอากาศสูง อาจทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือสร้างเสียงรบกวน
3. เสียงรบกวน
เนื่องจาก เสียงรบกวน จะเกิดขึ้นเมื่อเครื่องฟอกอากาศทำงาน โดยเฉพาะเมื่อเครื่องฟอกอากาศทำงานอยู่ในระดับความเร็วสูง หรือมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของลม ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงจากการหมุนของพัดลม หรือการกระแทกของอากาศ ดังนั้น เราจึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ไม่มีเสียงรบกวนการพักผ่อน อีกทั้งยังจะช่วยให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และความสุขของคนในบ้าน
4. ราคา
ราคาของเครื่องฟอกอากาศ จะมีราคาต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และความสามารถของเครื่องฟอกอากาศ โดยเครื่องฟอกอากาศราคาต่ำกว่า 2,000 บาท อาจให้ความสามารถในการฟอกอากาศน้อย หรือไม่สามารถฟอกอากาศได้ทั่วทั้งห้อง หรือไม่สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ เครื่องฟอกอากาศราคาระหว่าง 2,000-10,000 บาท ซึ่งอยู่ในราคาปานกลาง ที่มีความสามารถในการฟอกอากาศพอเหมาะ หรือสามารถฟอกอากาศได้ทั่วทั้งห้อง หรือสามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้มากกว่า 90% อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด
ส่วนเครื่องฟอกอากาศราคา 10,000 บาทขึ้นไป แน่นอนว่ามีความสามารถในการฟอกอากาศที่ดี หรือสามารถฟอกอากาศได้ทั่วทั้งห้อง สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้มากกว่า 99% อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากมีงบประมาณเพียงพอ
ดังนั้น การใช้เครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับราคา จะช่วยให้คุณสามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับงบประมาณ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ในยุคที่ PM2.5 อันตรายมากขึ้นทุกวัน การใช้เครื่องฟอกอากาศที่ช่วยกรองฝุ่นละออง PM2.5 จึงเป็นไอเทมที่ต้องมี เพื่อช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ Bwell ขอแนะนำ เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S ฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน เหมาะกับห้องขนาด 45 ตารางเมตร มีแผ่นกรอง HEPA ชนิด H-13 ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสร ขนสัตว์ มี Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นสี สามารถตั้งเวลาปิดได้ถึง 8 ชั่วโมง สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่