Skip to content
  • SINCE 2011
  • FAQ
  • ลงทะเบียนรับประกันสินค้า
  • Login
  • SINCE 2011
BwellBwell
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ Bwell
    • เกี่ยวกับแบรนด์
    • ทำไมต้อง Bwell
    • ลูกค้าของเรา
  • สินค้า
    • เครื่องฟอกอากาศ
    • เก้าอี้เพื่อสุขภาพ
    • หมอนและเบาะรองเพื่อสุขภาพ
    • เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
    • หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำความสะอาด
    • เครื่องทำน้ำอุ่น น้ำร้อน
    • เครื่องลดความชื้น
    • เครื่องกรองน้ำ
    • แอร์เคลื่อนที่
    • แผ่นฟอกอากาศ
    • อุปกรณ์ออกกำลังกาย
  • บทความ
  • ช่องทางจัดจำหน่าย
  • ติดต่อเรา
    • ค้นหาสาขาของ Bwell
    • นโยบายการจัดส่งสินค้า
    • นโยบายคืนเงิน และ รับประกันสินค้า
    • นโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Privacy Policy)
    • นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy)
    • คู่มือการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Bwell
  • สั่งซื้อออนไลน์
Home / แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

เครื่องลดความชื้น รุ่น BDH-30

17,990฿

SKU: 8859061900987 Category: แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier
  • Description

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

เพิ่มบัญชีทางการของเรา เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

เพิ่มเพื่อน

เครื่องดูดความชื้น รุ่น BDH-30

  • ขนาดห้อง 30-50 ตรม.
  • ความสามารถในการลดความชื้น 30 ลิตรต่อวัน
  • หน้าจอ Digital มีตัวเลขบอกระดับความชื้น
  • ความจุถังน้ำ 4 ลิตร
  • สารทำความเย็น R134a
  • กำลังไฟฟ้า 650 วัตต์
  • ระบบไฟฟ้า 220V/50Z
  • ระดับเสียง 51 dB
  • ขนาดเครื่อง 280 x 370 x 580 มิลมิเมตร
  • น้ำหนัก 18 กิโลกรัม

เงื่อนไขการรับประกัน

  • บริษัทรับประกันสินค้าเป็นระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่ลูกค้าซื้อสินค้า (ตัวคอมเพรสเซอร์ 3 ปี)
  • บริษัทรับประกันสินค้าในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องจากการผลิตเท่านั้น โดยจะดำเนินการแก้ไขให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ลูกค้าสามารถคืนสินค้าให้กับบีเวลล์ได้ในสภาพเดิม (สินค้าต้องยังไม่ถูกแกะ ฉีก และไม่ได้เปิดใช้)
    ภายใน 14 วันหลังจากที่ท่านได้รับสินค้าจากบีเวลล์ ทางเรายินดีที่จะให้ท่านแลกเปลี่ยนหรือคืนเงิน

เงื่อนไขการไม่รับประกัน

  • ใช้งานสินค้าผิดประเภทหรือผิดวัตถุประสงค์
  • ความผิดพลาดจากผู้ใช้เองเช่นการหล่น กระแทก เปียกน้ำ
  • ใช้กับระบบไฟฟ้าที่ไม่ใช่ 220V/1P/50Hz หรือระบบไฟฟ้าที่มีกำลังไฟฟ้าผิดปกติ เช่นไฟดับ ไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก
  • ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่นน้ำท่วม ไฟไหม้ ฟ้าผ่า แผ่นดินไหว ฯลฯ
  • มีการดัดแปลงหรือแก้ไขตัวสินค้าโดยบุคคลที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท
  • ไม่ได้ลงทะเบียนรับประกันสินค้าภายใน 10 วันนับจากวันที่ซื้อสินค้า

Related

Related products

Quick View

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

เครื่องลดความชื้น Bwell รุ่น BDH-53

19,990฿
New
Quick View

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

แอร์เคลื่อนที่ Bwell รุ่น BPAC-12B

15,990฿
Quick View

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

เครื่องลดความชื้น Bwell รุ่น BDH-26

15,990฿
Quick View
Out of stock

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

เครื่องลดความชื้น รุ่น BDH-20

13,990฿
Quick View

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ รุ่น BPAC-09

11,990฿
Quick View
Out of stock

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ BPAC-12

13,990฿
New
Quick View

แอร์เคลื่อนที่ และ เครื่องลดความชื้น Portable Air Purifier and Dehumidifier

แอร์เคลื่อนที่ Bwell รุ่น BPAC-09B

13,990฿

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน
สินค้าของเรา
  • เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส
  • เก้าอี้เพื่อสุขภาพ
  • เครื่องดูดฝุ่น ไร้สาย
  • เครื่องกรองน้ำ RO
  • เครื่องลดความชื้น
  • แอร์เคลื่อนที่
  • เครื่องฟอกอากาศพกพา
  • FAQ
  • ลงทะเบียนรับประกันสินค้า
Select your language
English English Thai Thai
Copyright 2025 © Bwell International
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ Bwell
    • เกี่ยวกับแบรนด์
    • ทำไมต้อง Bwell
    • ลูกค้าของเรา
  • สินค้า
    • เครื่องฟอกอากาศ
    • เก้าอี้เพื่อสุขภาพ
    • หมอนและเบาะรองเพื่อสุขภาพ
    • เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
    • หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำความสะอาด
    • เครื่องทำน้ำอุ่น น้ำร้อน
    • เครื่องลดความชื้น
    • เครื่องกรองน้ำ
    • แอร์เคลื่อนที่
    • แผ่นฟอกอากาศ
    • อุปกรณ์ออกกำลังกาย
  • บทความ
  • ช่องทางจัดจำหน่าย
  • ติดต่อเรา
    • ค้นหาสาขาของ Bwell
    • นโยบายการจัดส่งสินค้า
    • นโยบายคืนเงิน และ รับประกันสินค้า
    • นโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Privacy Policy)
    • นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy)
    • คู่มือการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Bwell
  • สั่งซื้อออนไลน์
  • FAQ
  • ลงทะเบียนรับประกันสินค้า
  • Login
จัดการ การอนุญาตใช้งาน Cookies
เว็บไซต์ www.bwell.co.th มีการใช้งานเทคโนโลยีคุกกี้ หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับคุกกี้ บนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษา นโยบายการใช้คุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ก่อนใช้บริการเว็บไซต์ ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
คุกกี้ที่จำเป็น Always active
คุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์ หากขาดคุกกี้ประเภทนี้ เว็บไซต์จะไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ
Preferences
The technical storage or access is necessary for the legitimate purpose of storing preferences that are not requested by the subscriber or user.
คุกกี้เก็บสถิติ
The technical storage or access that is used exclusively for statistical purposes. คุกกี้ที่ใช้เก็บสถิติการเข้าใช้บริการเว็บไซต์
Marketing
คุกกี้ที่ใช้ในการตลาดออนไลน์ ใช้เพื่อนำเสนอข้อมูลทางการตลาดให้เหมาะสมเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น
Manage options Manage services Manage vendors Read more about these purposes
ดูรายละเอียด
{title} {title} {title}
เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร?

เครื่องฟอกอากาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Air Purifier หรือ Air Cleaner เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อกรองอากาศภายในห้องหรือพื้นที่ต่าง ๆ โดยมีหน้าที่หลักในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่อให้อากาศสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น

ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ

  • ลดฝุ่นละออง PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้: เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 สามารถลดฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฝุ่นละออง PM2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจและโรคหอบหืด เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 สามารถดักจับอนุภาคเหล่านี้ได้ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นไรฝุ่นหรือเกสรดอกไม้ ซึ่งช่วยลดอาการแพ้และปัญหาทางเดินหายใจได้
  • ขจัดกลิ่น ควันบุหรี่ และกลิ่นอาหาร: เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพมักมาพร้อมกับแผ่นกรองคาร์บอนที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร และกลิ่นอับชื้น ทำให้อากาศในห้องมีกลิ่นหอมสดชื่นและไม่รบกวน นอกจากนี้ยังช่วยลดกลิ่นจากสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในบ้านหรือห้องทำงานได้อีกด้วย
  • ฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสในอากาศ: เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA หรือใช้เทคโนโลยี UV สามารถกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสในอากาศได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคต่าง ๆ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในยุคที่มีการระบาดของโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หรืออาคารสำนักงาน
  • ลดอาการภูมิแพ้และปัญหาทางเดินหายใจ: การใช้เครื่องฟอกอากาศช่วยลดสารก่อภูมิแพ้และอนุภาคขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจหรือภูมิแพ้มีอาการดีขึ้นและหายใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคทางเดินหายใจที่รุนแรงขึ้น เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคหลอดลมอักเสบ

ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม

  • ความต้องการในการใช้งาน: ควรพิจารณาจากไลฟ์สไตล์และความต้องการเฉพาะ เช่น หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นภูมิแพ้ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ หรือที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก็ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 ที่มาพร้อมกับแผ่นกรองในระดับที่เหมาะสม
  • ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ (HEPA, Activated Carbon, UV, Ionizer): โดยเครื่องฟอกอากาศ HEPA เหมาะสำหรับการกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ เครืองฟอกอากาศ Activated Carbon เหมาะสำหรับใช้ในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และก๊าซ VOCs เครื่องฟอกอากาศแบบ UV จะนิยมใช้ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเป็นหลัก และเครื่องฟอกอากาศระบบ Ionizer จะสร้างไอออนเพื่อช่วยดักจับอนุภาคในอากาศ การเลือกเครื่องฟอกอากาศจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานด้วย
  • พื้นที่การใช้งานและขนาดห้องที่เหมาะสม: ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศสามารถครอบคลุมพื้นที่ห้องได้อย่างเหมาะสม โดยคำนวณจากขนาดห้องและอัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศที่เครื่องสามารถทำได้
  • ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate): พิจารณาเลือกเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 จากค่า CADR ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศ โดยแสดงถึงปริมาณอากาศที่สามารถทำความสะอาดได้ต่อนาที ยิ่งค่า CADR สูง ยิ่งแสดงว่าเครื่องมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูง
  • ฟังก์ชันพิเศษ: ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และฟังก์ชันที่ต้องการเฉพาะบุคคล เช่น เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบอัตโนมัติ ช่วยปรับระดับการทำงานของเครื่องตามคุณภาพอากาศ สามารถควบคุมสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน ช่วยให้สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศได้จากที่ไกลผ่านสมาร์ตโฟน และระบบตรวจจับและแจ้งเตือนคุณภาพอากาศ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้รู้ถึงสถานะของคุณภาพอากาศในห้องได้

คำแนะนำในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ

การใช้งานเครื่องฟอกอากาศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ใช้งานควรตั้งค่าและเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสม โดยพิจารณาตามสภาพแวดล้อมในการใช้งานร่วมด้วย เช่น โหมดอัตโนมัติที่ปรับระดับการทำงานตามคุณภาพอากาศ หรือโหมดเงียบสำหรับการนอนหลับ รวมถึงการตรวจสอบและเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ

การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ

  • ควรทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศอย่างสม่ำเสมอ

ผู้ใช้งานควรทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศทั้งภายในและภายนอก โดยให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่นและคราบสกปรกจากตัวเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความสะอาดและความสวยงามของเครื่อง และควรทำความสะอาดแผ่นกรองชั้นนอกทุก ๆ 2 สัปดาห์ หากใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นกำจัดฝุ่นหยาบ และหลีกเลี่ยงการใช้แปรงหรือเครื่องมือที่อาจทำให้เส้นใยเสียหาย ที่สำคัญ อย่าลืมเปลี่ยนแผ่นกรอง HEPA และแผ่นกรองคาร์บอนเมื่อใช้งานครบกำหนดระยะเวลาด้วย โดยควรเปลี่ยนทุก 6 ถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและประสิทธิภาพที่ลดลง แผ่นกรองชั้นนอกสามารถทำความสะอาดได้ แต่แผ่นกรอง HEPA ควรทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นเท่านั้น

  • ความถี่ในการเปลี่ยนแผ่นกรอง

โดยทั่วไป แผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศ HEPA ควรเปลี่ยนทุก ๆ 6 ถึง 12 เดือน แผ่นกรองคาร์บอนควรเปลี่ยนทุกปี รวมถึงแผ่นกรองชั้นนอกควรถอดทำความสะอาดทุก ๆ 2 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและระยะเวลาในการใช้งานในแต่ละวันด้วย ผู้ใช้งานสามารถสังเกตจากสัญญาณแจ้งเตือนให้เปลี่ยนแผ่นกรองจากสัญลักษณ์เตือนบนเครื่องฟอกอากาศได้เช่นกัน

ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศมีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการกรองอากาศ แต่หลัก ๆ มีดังนี้:

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบ HEPA Filter

เครื่องฟอกอากาศแบบ HEPA Filter เป็นหนึ่งในประเภทที่นิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืด เนื่องจากสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน โดยมีประสิทธิภาพในการกรองอย่างน้อย 99.97 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมถึงฝุ่น PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย และไวรัส HEPA Filter มีหลายเกรด เช่น H12 H13 และ H14 โดยเกรดที่สูงขึ้นจะมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาดเล็กมากขึ้น นอกจากนี้ HEPA Filter ยังใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดสูง ตามโรงพยาบาลและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ด้วย

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบ Activated Carbon (ถ่านกัมมันต์)

เครื่องฟอกอากาศที่นิยมใช้สำหรับดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์และสารเคมีในอากาศ เช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร และกลิ่นอับชื้น แผ่นกรองคาร์บอนมักใช้ร่วมกับแผ่นกรอง HEPA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นและสารเคมี เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือมีปัญหากลิ่นรบกวน

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบ UV (แสงอัลตราไวโอเลต)

เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แสง UV เพื่อฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสในอากาศ เทคโนโลยีนี้มักใช้ร่วมกับแผ่นกรอง HEPA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรค

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบ Ionizer (ปล่อยประจุลบ)

เครื่องฟอกอากาศประเภทที่ปล่อยประจุลบ เพื่อดักจับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ ทำให้อนุภาคเหล่านั้นตกลงสู่พื้น แต่ก็มีข้อเสียที่ผู้ใช้งานอาจต้องทำความสะอาดพื้นและเฟอร์นิเจอร์บ่อยขึ้น และต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ไม่ปล่อยโอโซนมากเกินไป เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบ Ozone (โอโซน)

เครื่องฟอกอากาศที่ใช้โอโซนในการฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น แต่ควรใช้หลังจากที่ไม่มีคนอยู่ในห้อง เนื่องจากโอโซนอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจหากใช้ในปริมาณที่สูงเกินไป

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบ Hybrid (ลูกผสม)

เครื่องฟอกอากาศที่ผสมผสานเทคโนโลยีหลายแบบเข้าด้วยกัน ทั้ง HEPA Activated Carbon และ UV เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการกรองอากาศ โดย HEPA จะช่วยกรองฝุ่น Activated Carbon ช่วยดูดซับกลิ่น และ UV ช่วยในการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัส เพื่อให้การฟอกอากาศมีประสิทธิภาพสูงสุด

เครื่องฟอกอากาศเหมาะกับใคร?

เครื่องฟอกอากาศเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการอากาศสะอาดขึ้น แต่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนต่อไปนี้

  1. ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืด: เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศสามารถดูดและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ดี ทั้งฝุ่นละออง ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ และไรฝุ่น
  2. เด็กเล็กและผู้สูงอายุ: เครื่องฟอกอากาศจะช่วยกรองอากาศให้มีความสะอาดบริสุทธิ์ ตอบโจทย์สำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่มีระบบทางเดินหายใจบอบบาง ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ
  3. ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหรือพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง: เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 สามารถกรองฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถลดฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม และหมอกควันได้เป็นอย่างดี
  4. ผู้ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง: เครื่องฟอกอากาศช่วยกำจัดขนสัตว์และกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสัตว์เลี้ยงได้
  5. ผู้ที่สูบบุหรี่หรืออาศัยอยู่กับคนสูบบุหรี่: เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองควันบุหรี่และกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน
  6. ผู้ที่มีปัญหากลิ่นในบ้าน: เครื่องฟอกอากาศสามารถดูดและกรองกลิ่นจากการทำอาหาร กลิ่นอับ และกลิ่นสารเคมีจากเฟอร์นิเจอร์ได้

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ

  1. เมื่อใดควรเปิดเครื่องฟอกอากาศ?

การเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 ที่เหมาะสม คือเปิดเมื่อคุณภาพอากาศไม่ดี เช่น มีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน หรือเมื่อมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นอับชื้น เมื่อมีสัตว์เลี้ยงที่อาจก่อให้เกิดสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงในช่วงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่มีละอองเกสรดอกไม้มากขึ้น หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด การเปิดเครื่องฟอกอากาศจะสามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ให้กับคนที่คุณรักได้ด้วย

  1. การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวัน

โดยทั่วไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวัน แต่ในกรณีที่หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูงหรือมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง การเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวันจะช่วยให้อากาศสะอาดและปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม หากไม่มีใครอยู่ในห้อง ควรปิดเครื่องฟอกอากาศเพื่อประหยัดพลังงานในการใช้งาน

  1. เครื่องฟอกอากาศ ควรวางส่วนไหนในห้อง?

พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับวางเครื่องฟอกอากาศ คือพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง ควรห่างจากผนังและมุมห้องอย่างน้อย 20 ถึง 30 เซนติเมตร และสูงจากพื้นประมาณ 3 ถึง 5 ฟุต เพื่อให้อากาศไหลเวียนของอากาศสะดวก และช่วยให้เครื่องฟอกอากาศสามารถดูดอากาศโดยรอบได้ครอบคลุมมากที่สุด

  1. เครื่องฟอกอากาศประเภทไหนเหมาะสำหรับแก้ปัญหาฝุ่น?

หากต้องการ แก้ปัญหาฝุ่นในอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM 2.5 ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA-13 (High-Efficiency Particulate Air) เนื่องจากสามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ประเภทเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับการกรองฝุ่น

เครื่องฟอกอากาศแบบ HEPA Filter

  • คุณสมบัติ: สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้มากถึง 99.97 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมถึงฝุ่น PM 2.5 ไรฝุ่น ละอองเกสร และสารก่อภูมิแพ้
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากสามารถช่วยลดอาการแพ้และปัญหาทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ข้อดี: ประสิทธิภาพสูงในการกรองอนุภาคขนาดเล็ก ไม่ปล่อยสารเคมีหรือโอโซน และไม่ทำให้พื้นหรือเฟอร์นิเจอร์เป็นฝุ่น

เครื่องฟอกอากาศแบบ Ionizer

  • คุณสมบัติ: ปล่อยประจุลบเพื่อจับฝุ่นขนาดเล็กและทำให้ตกลงสู่พื้น ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้น
  • ข้อควรพิจารณา: อาจต้องทำความสะอาดพื้นและเฟอร์นิเจอร์บ่อยขึ้นเพื่อกำจัดฝุ่นที่ตกลงมา ควรเลือกเครื่องที่ไม่ปล่อยโอโซนมากเกินไป เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
  • ข้อดี: ราคาถูกกว่าเครื่องฟอกอากาศแบบอื่น ๆ และมีขนาดเล็กพกพาได้ง่าย

เครื่องฟอกอากาศ Bwell (HEPA + Activated Carbon +UV+PCO):

  • คุณสมบัติ: ผสมผสานเทคโนโลยีหลายแบบเข้าด้วยกัน โดย HEPA ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 และ Activated Carbon ช่วยดูดซับกลิ่นและสารเคมี และ UV + PCO ทำลายชีวมลพิษ เช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย Titanium dioxide (TiO2) ทำงานร่วมกับรีงสีอัลตราไวโอเล็ตทำให้เกิดปฎิกิริยา Photocatalytic Oxidation (PCO) ซึ่งจะทำลายก๊าซมลพิษและกลิ่นโดยการเปลี่ยนให้เป็นสารไร้มลพิษ
  • ข้อดี: มีประสิทธิภาพสูงในการกรองอากาศทั้งฝุ่น กลิ่น และสารเคมี ทำให้อากาศสะอาดและปราศจากกลิ่นรบกวน
    หายห่วงเรื่องมลพิษในอากาศ

Login

Lost your password?

Register

Your personal data will be used to support your experience throughout this website, to manage access to your account, and for other purposes described in our privacy policy.