รู้หรือไม่? อากาศที่เราหายใจเข้าไปทุกวันนี้เต็มไปด้วยฝุ่นละออง เชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่าง ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีมลพิษสูง หรือบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก
ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสำคัญและควรมีติดบ้านไว้เป็นอย่างยิ่ง เพราะมันสามารถช่วยกรองอากาศและกำจัดสารก่อมลพิษต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศดี ๆ สักเครื่อง เพื่อช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นในบ้านของคุณ แต่ลังเลว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี ในบทความนี้เราจะมาบอกประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ พร้อมทั้งแนะนำ 5 อันดับเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี ใหม่ล่าสุดปี 2023
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ

ก่อนจะเริ่มการแนะนำเครื่องฟอกอากาศ อันดับแรกอยากให้คุณทราบประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศเพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างตรงจุด โดยเครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน โดยดูดอากาศจากห้องผ่านตัวกรอง ซึ่งจะดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง ไรฝุ่น ควัน มลพิษ แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ
ถ้าคุณยังไม่เคยซื้อเครื่องฟอกอากาศมาก่อนและไม่รู้วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ เราแนะนำว่าควรควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- ขนาดห้องที่ต้องการใช้งาน
- อัตราการกรองอากาศ
- ระดับเสียง
- ฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ
เครื่องฟอกอากาศราคาเท่าไหร่บ้าง?

เครื่องฟอกอากาศราคาเท่าไหร่? มาดูไปพร้อมๆ กันเลย
- เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องขนาด 20-30 ตารางเมตร จะมีราคาประมาณ 5,000-10,000 บาท
- เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องขนาด 30-40 ตารางเมตร จะมีราคาประมาณ 10,000-15,000 บาท
- เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องขนาด 40-50 ตารางเมตร จะมีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
แนะนำ 5 เครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี ใหม่ล่าสุด ปี 2023

ในปัจจุบันฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ใครหลายคนเริ่มมองหาเครื่องฟอกอากาศมาใช้กัน แต่ทั้งนี้เครื่องฟอกอากาศนั้นก็มีมากมายหลายแบรนด์ จนไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี? วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 เครื่องฟอกอากาศ จากแบรนด์ดัง ใหม่ล่าสุด ปี 2023
1. เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8428
เครื่องฟอกอากาศเครื่องแรกที่เราจะแนะนำ คือ Bwell เครื่องฟอกอากาศ Compact Series ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ที่ต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทารก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เนื่องจากเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ไม่มีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดฝุ่นดำและโอโซน ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองต่อปอด
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8428 เหมาะสำหรับห้องขนาด 20-40 ตารางเมตร สามารถฟอกอากาศได้ถึง 7 ขั้นตอนซึ่งมาพร้อมกับแผ่น Prefilter กรองฝุ่นขนาดใหญ่ แผ่นกรอง HEPA ชนิด H-13 ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็ก สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสร ขนสัตว์ แผ่น Charcoal/Zeolite กรองกลิ่น และก๊าซพิษ รวมถึงแผ่น Antibactreria ไว้สำหรับกรองแบคทีเรีย
แสดงค่า PM2.5 เป็นตัวเลขด้วย Pollution Sensor พร้อมทั้งระบบ Auto ตรวจจับมลพิษและปรับการทำงานอัตโนมัติ มีระบบเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศ อีกทั้งยังปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ low/medium/high/turbo สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องฟอกอากาศได้อย่างสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อ Wifi
ราคาเพียง 17,990 บาท
2. เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น AP-8119US
อีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส จาก Bwell รุ่น AP-8119US เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กเหมาะสำหรับห้องขนาด 10-30 ตารางเมตร สามารถฟอกอากาศได้ถึง 6 ขั้นตอน โดยมีแผ่นกรองดักจับอนุภาคฝุ่นละออง และดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมี Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นตัวเลข มีระบบ Auto ตรวจจับมลพิษแบบอัตโนมัติ และกำจัดเชื้อไวรัสในอากาศได้ด้วยแสง UV-C
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังควบคุมผ่าน Touch Panel ระบบสัมผัส สามารถเชื่อมต่อ Wifi และควบคุมการทำงานด้วยแอพ Smartlife ซึ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงยังสามารถปรับความแรงลมของเครื่องได้มากถึง 4 ระดับ ได้แก่ low/medium/high/turbo
ราคา: 11,990 บาท
3.เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น PM1330
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น PM1330 นั้นประสิทธิภาพสูง คุ้มค่าเกินราคา เครื่องฟอกอากาศบีเวลล์ีรุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับทุกคนที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์และสดชื่น เหมาะสำหรับห้องขนาด 40-60 ตารางเมตร มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ระบบฟอกอากาศ 7 ขั้นตอน กรองได้ทั้งอนุภาคฝุ่นละออง ก๊าซพิษ และกลิ่น
- ฆ่าเชื้อด้วยแสง UV
- ระบบตรวจจับมลพิษ Pollution Sensor และปรับการทำงานอัตโนมัติ
- ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส (Touch Panel)
- ปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ
- สามารถตั้งเวลาปิดได้ตั้งแต่ 2 ถึง 8 ชั่วโมง
- มีระบบเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศ
- สามารถเปิดปิดการทำงานระบบฆ่าเชื้อโรค UV
- ระบบฟอกอากาศ
อีกทั้งเครื่องฟอกอากาศบีเวลล์ทำงานด้วยระบบฟอกอากาศครบวงจร ประกอบด้วยการกรองอนุภาคฝุ่นละออง การกรองก๊าซพิษและกลิ่น และระบบฆ่าเชื้อ
- การกรองอนุภาคฝุ่นละออง: ดักจับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก แบคทีเรีย และไวรัส
- การกรองก๊าซพิษและกลิ่น: ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำลายก๊าซพิษ
- ระบบฆ่าเชื้อ: ทำลายเชื้อโรคด้วยแสง UV และปฏิกิริยา Photocatalytic Oxidation (PCO)
- ความอ่อนโยนต่อสุขภาพ
เครื่องฟอกอากาศบีเวลล์ไม่มีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดฝุ่นดำ และโอโซน ซึ่งส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อปอด เหมาะสำหรับทารก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้
ราคาเพียง 25,990 บาท
4. เครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005
แนะนำอีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศกำจัดไวรัส รุ่น CF-8005 จากแบรนด์ Bwell เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในห้องขนาด 10-20 ตารางเมตร
มาพร้อมระบบฟอกอากาศ 6 ขั้นตอน ประกอบด้วยการกรองอนุภาคฝุ่นละออง การกรองก๊าซพิษและกลิ่น และระบบฆ่าเชื้อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความอ่อนโยน เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดฝุ่นดำ และโอโซน ซึ่งส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อปอด รวมถึงทารก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้
นอกจากนี้ยังมี Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นตัวเลข พร้อมทั้งมีระบบ Auto ตรวจจับมลพิษและปรับการทำงานอัตโนมัติ และสามารถตั้ง Sleep Mode เพื่อปิดไฟการทำงานในเวลานอน โดยมาพร้อมกับ Touch Panel ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส รวมถึงตัวเครื่องยังปรับความแรงลมได้ถึง 4 ระดับได้แก่ low/medium/high/turbo
ราคาเพียง 6,990 บาท
5. เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S มาพร้อมคุณสมบัติครบครัน ในราคาที่จับต้องได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีมากที่สุด
โดยมีจุดเด่น ดังนี้
- ระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน ประกอบด้วยการกรองอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่ การกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก และระบบกรองกลิ่น
- เหมาะกับห้องขนาด 45 ตารางเมตร
- ประสิทธิภาพการกรอง
- ค่า CADR Pollen 450 m3/hr
- ค่า CADR Dust 375 m3/hr
- ค่า CADR Smoke 355 m3/hr
คุณสมบัติอื่น ๆ ของเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 รุ่น AP-M1536S
- สามารถเชื่อมต่อ Wifi และควบคุมการทำงานด้วยแอพ Smartlife
- มี Pollution Sensor แสดงค่า PM2.5 เป็นสี
- มีระบบ Auto ตรวจจับมลพิษและปรับการทำงานอัตโนมัติ
- มีระบบ Sleep Mode ปิดไฟการทำงานเวลานอน
- Touch Panel ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส
- มีระบบ Child lock ป้องกันเด็กกดเล่น
- ปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ low/medium/high
- สามารถตั้งเวลาปิดได้ถึง 8 ชั่วโมง
- มีระบบเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศ
ราคาเพียง 6,990 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างกับบทความแนะนำเครื่องฟอกอากาศของเราในวันนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์และดีไซน์ที่หลากหลาย ดังนั้นวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้คุณค่ามากที่สุด