เครื่องฟอกอากาศ PM2.5
กรองอากาศ 3 ขั้นตอน
1.แผ่นกรอง Activated Carbon Pre-filter :
ดักจับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่เช่น ฝุ่น ผม ละอองเกสร เส้นใย และขนสัตว์ นอกจากนี้ยังช่วยลดกลิ่น เช่นอาหาร บุหรี่ และสัตว์เลี้ยง
2.แผ่นกรอง HEPA : ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น ฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังสัตว์ ไรฝุ่น
3.แผ่นกรอง Charcoal : ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
Uncategorized
Uncategorized
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
แผ่นฟอกอากาศ Filter
เลือกหัวข้อ เครื่องดูดฝุ่น
- เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่นแนะนำ
- ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ
- วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
- ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ
- การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ
- ช่องทางจัดจำหน่าย
เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่นแนะนำ
Bwell รุ่นพิเศษแบบ 2-in-1 ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถพกพาไปใช้ได้ทั้งในบ้าน คอนโดมิเนียม และรถยนต์ แม้ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศยังโดดเด่นไม่ด้อยไปกว่าเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหน ๆ เลย มาพร้อมระบบฟอกอากาศแบบครบวงจร 5 ขั้นตอน และแผ่นกรองอากาศสุดล้ำ HEPA และแผ่น Prefilter ที่ช่วยทำหน้าที่กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กและใหญ่ ดูดกลิ่นและก๊าซพิษ แถมยังฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียได้อีกด้วย
Bwell ‘Intelligent Series’ ที่เหมาะสำหรับใช้งานในห้องขนาดเล็ก 10 ถึง 20 ตารางเมตร ด้วยนวัตกรรมการฟอกอากาศแบบ 6 ขั้นตอน ได้แก่ ระบบการกรองอนุภาคฝุ่นละออง (Particle Filtration) ที่มีประสิทธิภาพสูงในการดักจับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่เล็กได้หมด ระบบการกรองก๊าซพิษและกลิ่น (Gas Filtration) และระบบฆ่าเชื้อ (Virus Kill) ด้วยรังสี UV ก่อนที่จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาให้คุณ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องฟอกอากาศ Bwell เลยก็ว่าได้
Bwell ‘Compact Series’ ที่มาพร้อมระบบฟอกอากาศแบบ 6 ขั้นตอน เหมาะกับการใช้งานในห้องขนาดเล็ก ประมาณ 10 ถึง 30 ตารางเมตร สามารถกรองได้ทั้งอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซพิษ และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัสทั้งหมด แถมยังปรับระดับความเร็วลมได้ 3 ระดับ มีระบบแจ้งเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศไว้ให้ในตัว และสามารถตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องได้ตั้งแต่ 2 ถึง 8 ชั่วโมง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และวัตถุประสงค์ในการใช้งานได้อย่างเหมาะสมที่สุด
Bwell ‘Intelligent Series’ ที่เหมาะกับห้องขนาดไซซ์กลาง ประมาณ 20 ถึง 40 ตารางเมตร กับอีกขั้นของเทคโนโลยีการฟอกอากาศ กับประสิทธิภาพการฟอกอากาศแบบ 7 ขั้นตอน สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารก่อภูมิแพ้ ขนสัตว์ กลิ่นและก๊าซพิษ หรือแม้กระทั่งเชื้อไวรัสแบคทีเรียในอากาศก็สามารถกรองและฆ่าเชื้อได้ด้วยแสง UV ทั้งหมด เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นยอดนิยม เพราะใช้งานง่ายมาก แถมยังมีความทันสมัย สามารถเชื่อมต่อ WIFI และควบคุมการทำงานได้ด้วยระบบแอปพลิเคชัน พร้อมด้วยระบบอำนวยความสะดวกมากมายในที่จัดเต็มมาให้อยู่ในเครื่องเดียว
Bwell ‘Intelligent Series’ เครื่องฟอกอากาศรุ่นอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาสำหรับบุคคลทั่วไป และผู้ใช้ที่ต้องการความอ่อนโยนโดยเฉพาะ ใช้งานง่ายมากด้วยระบบควบคุมการทำงานแบบสัมผัสทั้งหมด แถมยังมีระบบตรวจจับมลพิษแสดงค่า pm2.5 และปรับการทำงานให้อัตโนมัติให้ด้วย ที่สำคัญ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ยัง ทำงานด้วยระบบฟอกอากาศ 7 ขั้นตอน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศ Bwell ทุกรุ่น กรองได้แม้กระทั่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซพิษ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ และสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสในอากาศด้วยรังสี UV ได้สูงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย
Bwell ‘Inverter Series’ ที่มาพร้อมกับระบบการฟอกอากาศแบบ 7 ขั้นตอน ด้วยนวัตกรรมการฟอกอากาศสุดล้ำสมัย Triple – Action Virus Killer กับประสิทธิภาพการกรองอากาศแบบครบวงจร เพื่อมอบอากาศสะอาดบริสุทธิ์ กรองสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และรวมถึงเชื้อไวรัสโคโรน่าในอากาศ ได้สูงถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ ผสานการกรองและยับยั้งเชื้อไวรัส ด้วยระบบกรองอนุภาคฝุ่นละออง (Particle Filtration) การกรองก๊าซพิษและกลิ่น (Gas Filtration) และระบบฆ่าเชื้อไวรัส (Virus Destruction) ด้วยแสง UV ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เป็นอย่างดี ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัสทั้งหมด ทำให้ใช้งานได้ง่าย ใคร ๆ ก็สามารถใช้งานได้
ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ และรูปแบบของการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier Installation Types)
เครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันนั้นได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นมาหลายรุ่นหลายแบรนด์ให้เลือกใช้งาน ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ขนาด และรูปแบบการติดตั้งที่ไม่เหมือนกัน ทำให้การจัดแบ่งประเภทของเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันจะจัดแบ่งโดยอิงจากวัตถุประสงค์และรูปแบบการติดตั้งใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
-
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) สำหรับติดตั้งบนพื้น
เครื่องฟอกอากาศตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะ เป็นเครื่องฟอกอากาศที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดแล้ว เพราะมีขนาดและยี่ห้อให้เลือกซื้อมากมายหลายแบรนด์ แถมยังเหมาะกับการใช้งานในห้องพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานขนาดเล็ก และออฟฟิศ ซึ่งในปัจจุบันนั้นถูกพัฒนาขึ้นให้ฟังก์ชันการใช้งาน รูปทรงและขนาดที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จุดเด่นของตัวเครื่องฟอกอากาศสำหรับตั้งบนพื้นนั้นจะอยู่ที่ขนาดรูปทรงที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ดีไซน์สวยงามทันสมัย จัดวางไว้ในบ้านก็สวยงามเหมือนเป็นของตกแต่งบ้านได้เลย
-
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) สำหรับติดตั้งในรถยนต์
เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ปิดขนาดเล็กมาก ๆ อย่างภายในรถยนต์และยานพาหนะขนาดเล็ก ซึ่งมีรูปแบบติดตั้งที่หลากหลาย จะวางบนบริเวณหน้ารถ หรือติดไว้หลังพนักพิงเบาะนั่งก็ได้ นับเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในช่วงหลัง หลักการเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ก็ง่าย ๆ ให้เลือกที่ประสิทธิภาพการกรองอากาศและขนาดตัวเครื่องให้เหมาะสมกับขนาดของรถยนต์ก็เพียงพอแล้ว เพื่อที่จะได้กรองอากาศได้ครอบคลุมภายในตัวรถ
-
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) แบบฝังฝ้าเพดาน
เครื่องฟอกอากาศที่มีลักษณะเหมือนเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ที่ฝังฝ้าเพดาน เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ห้องขนาดใหญ่และมีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงงาน และห้างสรรพสินค้า มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศและดักจับมลพิษทางอากาศได้ดีมาก แถมยังกระจายอากาศได้อย่างทั่วถึงทุกมุมห้อง เพราะกรองอากาศได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว แต่แลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบางรุ่นที่สามารถกรองเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสได้ก็จะยิ่งมีราคาสูงขึ้นไปอีก
-
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) แบบพกพา
เครื่องฟอกอากาศที่ถูกพัฒนาขึ้นตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่สภาพแวดล้อมทางอากาศปนเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเชื้อไวรัสต่าง ๆ คอยทำหน้าที่กรองอากาศและดักจับสิ่งสกปรกใกล้ตัวที่ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้คุณสามารถหายใจรับอากาศที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ใส่ติดตัวได้ตลอดทั้งวัน โดยเครื่องฟอกอากาศแบบสวมใส่ ส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามลักษณะการสวมใส่ ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศแบบคล้องคอ และเครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ
วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
-
ขนาดพื้นที่กับการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ (Room Size)
เครื่องฟอกอากาศนั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้หลักการทำงานเช่นเดียวกับพัดลม ซึ่งจะดูดอากาศภายนอกเข้าไปภายในตัวเครื่องและทำการกรองอากาศ ดักจับฝุ่นละอองสิ่งสกปรก และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ที่กรองแล้วออกมาด้านนอก โดยเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นและแต่ละขนาดนั้นมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศในแต่ละขนาดพื้นที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของห้องที่ต้องการติดตั้งด้วย เพื่อที่เครื่องฟอกอากาศของคุณจะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ของห้อง และไม่กินไฟฟ้าจนเกินไป คุณจะได้ไม่เสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์
-
ระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ต้องดูก่อนเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ คือระบบการทำงานของตัวเครื่องฟอกอากาศ ว่ามีคุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานของตัวเครื่องที่ตอบโจทย์กับความต้องการของคุณหรือไม่ เพราะเครื่องฟอกอากาศนั้นมีหลายรุ่นหลายฟังก์ชันมาก ยิ่งมีฟังก์ชันครบก็ยิ่งราคาแพง ดังนั้นหากฟังก์ชันไหนที่ไม่จำเป็นต่อความต้องการของคุณ ก็ตัดทิ้งและให้เลือกรุ่นที่เหมาะสมจะดีกว่า โดยให้เน้นไปที่ชนิดของฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองเป็นหลัก ควรเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดีและดักจับฝุ่นละอองได้มากก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
-
ราคาของเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศไม่เพียงแต่คำนึงถึงราคาของตัวเครื่องฟอกอากาศเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนตัวกรอง แผ่นกรองคาร์บอน และอะไหล่อื่น ๆ ร่วมด้วย เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่นเมื่อผ่านการใช้งานไปสักพักก็จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนตัวกรองอยู่เสมอ เพื่อคงประสิทธิภาพในการกรองอากาศให้ดีดังเดิม ดังนั้นก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่าลืมคำนึงถึงราคาค่าใช้จ่ายในภาพรวมทั้งหมดด้วย
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
-
ช่วยกรองอากาศจากภายนอก
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอากาศภายนอกมีมลพิษปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสกปรกขนาดเล็กที่ตาของเราไม่สามารถมองเห็นได้ เราต้องอยู่อาศัยและเดินทางผ่านฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้อยู่ในทุก ๆ วัน ดังนั้นการติดตั้งหรือสวมใส่เครื่องฟอกอากาศติดไว้จะช่วยดักจับมลพิษทางอากาศ โดยเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถดักจับฝุ่นละออง หรืออนุภาคที่มีขนาดเล็กต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ขนาด 0.3 ไมครอนขึ้นไป ซึ่งก็หมายความว่ามันสามารถที่จะกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างสบาย ๆ ทำให้คุณและคนที่คุณรักได้รับและหายใจร่วมกับอากาศที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
-
ส่งเสริมการสร้างอากาศที่ดีต่อการอยู่อาศัย
เครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติที่ไม่เพียงแต่สามารถกรองมลพิษและกำจัดเชื้อโรคในอากาศได้เท่านั้น แต่เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นยังมีฟังก์ชันที่สามารถกำจัดไวรัส ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นมาได้อีกด้วย ส่งเสริมให้อากาศภายในที่อยู่อาศัย หรือมลภาวะทางอากาศรอบ ๆ ตัวคุณมีความสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น
-
สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการพักผ่อน
เครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งที่ควรติดตั้งไว้ในห้องนอน และห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน เพราะจะช่วยในการกรองอากาศให้มีความสะอาดบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น คุณและคนที่คุณสามารถหายใจได้อย่างสะดวก และหายใจได้อิ่มขึ้น ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น เพราะได้สูดรับอากาศที่สดชื่นอย่างเต็มที่ อีกทั้งเครื่องฟอกอากาศยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับหรือหลับยากจากอาการนอนหลับไม่สนิท หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ อ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากสภาวะอากาศและฝุ่นละออง เครื่องฟอกอากาศจะทำให้ปัญหาเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงไป และทำให้การพักผ่อนนอนหลับได้สนิทตลอดคืน
-
ลดอาการกำเริบของภูมิแพ้ได้
เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้มีอาการภูมิแพ้ควรต้องมีติดไว้ข้างตัวเสมอ เพราะอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาการภูมิแพ้หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมักมีปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบจากการหายใจเข้ารับสิ่งสกปรกปนเปื้อนจากภายนอก ดังนั้นการทำงานของเครื่องฟอกอากาศที่ช่วยกรองอากาศที่มีมลพิษให้สะอาดก่อนที่ร่างกายจะสูดดมรับเข้าไปในร่างกาย ก็จะช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกจากภูมิแพ้ต่าง ๆ ลงได้
-
สามารถกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
เครื่องฟอกอากาศไม่เพียงแต่จะช่วยในการกรองอากาศ และดักจับสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนในอากาศเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นควัน ทั้งกลิ่นควันจากบุหรี่ ควันธูป หรือควันที่เกิดจากการเผาไหม้ก็สามารถกรองได้ หรือแม้กระทั่งกลิ่นอาหารต่าง ๆ กลิ่นของสัตว์เลี้ยง และกลิ่นที่เกิดจากสาร VOCs ซึ่งเป็นกลิ่นสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เครื่องฟอกอากาศก็สามารถกรองและลดความอันตรายลงได้เช่นกัน
การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier Maintenance)
การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ที่วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ควบคู่กับการทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเสียมากกว่า ยกเว้นเฉพาะเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นที่มีฟังก์ชันเสริมขึ้นมา วิธีการดูแลรักษาก็จะมีความเฉพาะขึ้นมาเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วจะเน้นที่การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเป็นหลักเช่นกัน สำหรับวิธีการดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศที่ถูกต้อง จะมีดังนี้
-
หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ
แผ่นกรองอากาศเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องฟอกอากาศ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจเช็กคุณภาพและหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน หรือมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ สำหรับวิธีการดูแลรักษาความสะอาดนั้นให้ใช้น้ำสะอาดล้าง และผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง หรือจะใช้เครื่องดูดฝุ่น และแปรงปัดตามร่องของแผ่นกรองอากาศเบา ๆ ก็ได้
-
ดูแลแผ่นกรองคาร์บอน
เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นจะมีแผ่นกรองคาร์บอนที่ช่วยกรองกลิ่นติดตั้งภายในตัวเครื่อง ก็จำเป็นต้องถอดออกมาทำความสะอาดเช่นกัน เมื่อใดที่ถอดแผ่นกรองอากาศออกมาทำความสะอาด ก็อย่าลืมถอดแผ่นกรองคาร์บอนออกมาเคาะ ๆ และใช้แปรงขัดฝุ่นมาปัดทำความสะอาดเบา ๆ หรือจะใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยดูดก็ได้
-
ทำความสะอาดตาข่ายด้านนอกอย่างสม่ำเสมอ
ภายนอกเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นจะมีตาข่ายหรือฟองน้ำดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ ถือเป็นด่านแรกที่ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนในอากาศ ต้องคอยใส่ใจและสังเกตว่ามีฝุ่นจับมากน้อยแค่ไหน และหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ อย่าให้พลาด โดยวิธีก็ง่ายมาก แค่ถอดไปล้างน้ำสะอาด หรือใช้แปรงปัดฝุ่นออก และตากให้แห้งก่อนนำไปประกอบกลับเข้าที่
-
อย่าลืมทำความสะอาดตัวเครื่องฟอกอากาศ
การดูแลรักษาความสะอาดตัวเครื่องด้านนอกเครื่องฟอกอากาศก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะอาจกลายเป็นสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกได้ โดยเฉพาะส่วนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือบริเวณช่องปล่อยอากาศที่มีลักษณะเป็นแผ่นตะแกรงซ้อนทับกัน ให้หมั่นใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาดเช็ดคราบสำหรับเครื่องฟอกอากาศที่เป็นพลาสติกก็เพียงพอแล้ว
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) ทำไมต้อง Bwell
Bwell ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศของแท้คุณภาพดีที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CE ด้านสุขภาพความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม สินค้าทุกตัวของเราได้รับการออกแบบด้วยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการฟอกอากาศ คำนึงและใส่ใจถึงความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานเป็นหลัก ออกแบบมาสำหรับบุคคลทั่วไป และผู้ใช้ที่ต้องการความอ่อนโยน โดยเฉพาะทารก เด็ก และผู้ป่วย
เครื่องฟอกอากาศของ Bwell ทุกรุ่นรับรองคุณภาพในการฟอกอากาศได้มาตรฐานสากล สามารถฟอกอากาศได้แบบครบวงจรด้วยระบบการกรองอนุภาคฝุ่นละออง การกรองก๊าซพิษและกลิ่น และระบบฆ่าเชื้อไวรัส ครบจบในตัวเดียว ซึ่งหาได้ยากในเครื่องฟอกอากาศทั่วไป อีกทั้งเครื่องฟอกอากาศทุกตัวของเราผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อไวรัส ด้วยรังสี UV จากสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ก่อนดำเนินจัดส่งให้ลูกค้าทุกท่าน รับรองว่าท่านจะได้รับเครื่องฟอกอากาศที่ดีมีคุณภาพตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานของท่านแน่นอน สนใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เลือก Bwell
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลยที่ Line : @BWELL